MCQ 1-2555 Day 2

January 11, 2017 | Author: Covermark Thailand | Category: N/A
Share Embed Donate


Short Description

Download MCQ 1-2555 Day 2...

Description

รวบรวมโดย นิสิสตคณะเภสั ติ คณะเภสัชศาสตร์ ชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ฬาลงกรณ์มหาวิ มหาวิทยาลั ทยาลัย Special Thanks:

ข้อสอบ อสอบ

MCQ

Rx69

จากเพื อนๆ อนๆ คณะเภสัชศาสตร์ ชศาสตร์ มหาวิทยาลั ทยาลัยเชี ยเชียงใหม่ ยงใหม่ และ มหาวิทยาลั ทยาลัยนเรศวร ยนเรศวร

Case 1: Warfarin

ให้ ให้ monograph การวิเคราะห์ เคราะห์ warfarin จาก USP มา กาหนดค่า Q = 80 ทาการวิเคราะห์ เคราะห์ในขัน S พบว่าน า นาหนั  กของเม็ กของเม็ดยาทั ดยาทัง 6 เม็ดเป็ ดเป็นดังนี ง นี  N1=4.5, N2=4.5, N3=5.25, N4=4.75, N5=5.25, N6=4.0 ถามว่าผ่ าผ่านตาม านตาม acceptance criteria หรือไม่ 1.

1

ผ่าน าน S1 ผาน า่ น S1 เนื  เนื องจากมียา ยา 1 เม็ดที  ดที อยู ่ ่ยูต่ตากว่ า่ กว่า Q+5 2) ไม่ผ่ ผาน า่ น S1 เนื  เนื องจากมียา ยา 4 เม็ดที  ดที อยู ่ ่ยูต่ตากว่ า่ กว่า Q+5 3) ไม่ผ่ ผาน า่ น S1 ต้องเพิ   งเพิมยาอี มยาอีก 6 เม็ด 4) ไม่ผ่ 1)

5)

2.

ให้โครงสร้าง warfarin มา ถามว่าถ้ าถ้าจะดูว่ว่าเป็ าเป็น S-warfarin หรือ R-warfarin ต้องดูที ท ตี าแหน่ าแหน่งไหนในโครงสร้ งไหนในโครงสร้าง

หากแพทย์ส ั งจ่ ง  จ่ายยา ายยา warfarin โดยให้  ้ผปู ่ วยได้ วยได้รับยาคิ ดเป็ ดเป็น 17.5 mg/week ให้รับประทานยาในขนาดเท่ ากันทุ นทุกวั กวัน ซึ  ซึง ห้องยามี warfarin ขนาด 3 mg และ 5 mg การจ่ายยาแบบใดเหมาะสมที  ายยาแบบใดเหมาะสมที สุด (ทานยา 4 สัปดาห์ ปดาห์) 1) 3 mg จานวน 10 เม็ด และ 5 mg จานวน 8 เม็ด 2) 3 mg จานวน 20 เม็ด และ 5 mg จานวน 2 เม็ด 3) 5 mg จานวน 14 เม็ด 4) 5 mg จานวน 28 เม็ด 3.

MCQ 1/2555 by CURx69 page 1

จากการจ่ายยาข้ ายยาข้างต้ งต้น ควรจะทาน warfarin อย่างไร างไร 1) ทาน 3 mg วันจั นจันทร์ นทร์ถึ งศุ งศุกร์ กร์ และ 5 mg ครึ  ครึ งเม็ดในวั ดในวันเสาร์ นเสาร์ 3) ทาน 5 mg ครึ  ครึ งเม็ด วันละครั นละครัง

4.

2)

ทาน 5 mg วันเว้ นเว้นวัน

การให้คาแนะน า แนะนาเกี  เกี ยวกับการใช้ บการใช้ warfarin ข้อใดถูกต้ กต้อง 1) ถ้าลืมทานยาเกิ มทานยาเกิน 6 ชั วโมง ว  โมง ให้ ให้เพิพ  ิมขนาดยาในมื มขนาดยาในมือถั อ ถัดไปเป็ ดไปเป็นสองเท่า 2) สามารถทาน warfarin ร่วมกับการใช้ บการใช้ paracetamol ได้อย่างปลอดภั างปลอดภัย 3) อาการจาเลื  อดเป็ อดเป็นอาการแสดงของภาวะมีลิ  ลิมเลื มเลือดอุ อดอุดตั ดตัน 4) ควรทาน warfarin หลังอาหารทั งอาหารทันที นที เพื   เพือลดการเกิ อลดการเกิดภาวะเลื ดภาวะเลือดออกในทางเดิ อดออกในทางเดินอาหาร นอาหาร 5) หากมีเลื เลือดออกตามไรฟั อดออกตามไรฟัน ให้กลัลั บมาพบแพทย์

5.

ข้อใดถูกต้ กต้องเกี  งเกี ยวกับ warfarin ฤทธิ มากกว่ มากกว่า S-isomer  1) R-isomer มีฤทธิ   ้ป่ วย วย MI ที ที ใส่ stent มีค่คาอยู ่ ่ า่ อยูที ท ี 2-3 2) Target INR ของผู 3) สามารถใช้ protamine sufate รักษาภาวะเลื อดออกในทางเดิ อดออกในทางเดินอาหารจาก นอาหารจาก warfarin ได้ 4) สามารถตรวจวัด platelet เพื   เพือติ อติดตามผลได้ ดตามผลได้ 5) สามารถตรวจวัด aPTT ติดตามผลได้ ดตามผลได้ 6.

ข้อใดถูกต้ กต้องเกี  งเกี ยวกับยา บยา warfarin บยา warfarin สามารถเพิ   สามารถเพิมค่ มค่า INR ได้ 1) การให้ยา ASA ร่วมกับยา 2) ยา warfarin จัดเป็ ดเป็นยาใน Cat C 7.

3) 4) 5)

. ผู  ้ป่วยคนใดมี วยคนใดมีความเสี   ความเสียงที  ยงที จะเกิด thrombosis 1) ผู   ้ป่วยมี วยมี poor metabolite ของ enzyme CYP 2C9 2) ผู   ้ป่วยกิ วยกิน warfarin ร่วมกับ phenobarbital 3) ผู   ้ป่วยกิ วยกิน warfarin ร่วมกับ clarithromycin 4) ผู   ้ป่วยกิ วยกิน warfarin ร่วมกับ amiodarone 5) ผู   ้ป่วยกิ วยกิน warfarin ร่วมกับ vitamin E 8

MCQ 1/2555 by CURx69 page 2

การให้  ้ผปู ่ วยกินยา นยา warfarin ตรงเวลาทุกวั กวัน จะช่วยลดอุ วยลดอุบับัติตการณ์ กิ ารณ์ของการเกิ ดอาการไม่ ดอาการไม่พึพงประสงค์ งึ ประสงค์ได้ ได้ คาว่ าว่า อุบับัติตการณ์ กิ ารณ์ หมายความว่ าอย่ าอย่างไร างไร 1) จานวนผู  ้ป่วยที  วยที เกิดอาการไม่ ดอาการไม่พึพงประสงค์ ึงประสงค์ เทียบกับผู บผู  ้ป่ วยทังหมดในโรงพยาบาล ง หมดในโรงพยาบาล 2) จานวนผู  ้ป่วยใหม่ วยใหม่ที ท เี กิดอาการไม่ ดอาการไม่พึพงประสงค์ งึ ประสงค์จากการใช้ จากการใช้ warfarin เทียบกับผู บ  ้ผูป่ วยทั วยทังหมด ง หมด ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ   ดเวลาใดเวลาหนึง 3) จานวนผู  ้ป่วยใหม่ วยใหม่ที ท เี กิดอาการไม่ ดอาการไม่พึพงประสงค์ งึ ประสงค์เที เทียบกับผู บ  ้ผูท ี ีใช้ช้ warfarin ทังหมดในช่ ง หมดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ   งเวลาใดเวลาหนึง 4) 5) 9.

ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่า สถานที  สถานที ท รี ี ะบุในฉลากยา ในฉลากยา warfarin ไม่ใช่ ใช่สถานที  สถานที ผลิตจริ ตจริง จะจัดว่ ดว่ายานี ายานีเป็ เ ป็นยาประเภทใดตาม กฎหมาย 1) ยาเสื   ยาเสือมคุ อมคุณภาพ ณภาพ 2) ยาผิดมาตรฐาน ดมาตรฐาน 3) ยาปลอม ได้ขนทะเบี นึ ทะเบียนต ยนตารั ารับ 4) ยาไม่ได้ กถอนทะเบียนต ยนตารั ารับ 5) ยาเพิกถอนทะเบี 10.

Case 2: Asthma

  ้ผูป่วยเป็ วยเป็ นโรคภู นโรคภูมิมิแพ้ แพ้ มักมี กมีอาการเมื   อาการเมืออากาศเปลี   ออากาศเปลียน ยน มีอาการคล้ อาการคล้ายหวัด จาม คัดจมู ดจมูก นนามู  กไหล กไหล มักเป็ กเป็นในช่วงเช้ วงเช้า ไม่มีมไข้ ไี ข้ ได้รับยาแก้แพ้อย่ างต่ างต่อเนื  อเนื อง 3 เดือนต่ อนต่อมา อมา   ้ผูป่วยไปพบแพทย์ วยไปพบแพทย์ แพทย์วิวิ นิจฉั จฉัยว่ ยว่าเป็ าเป็นโรคต่อมลู อมลูกหมากโต กหมากโต ได้รับยาแล้ บยาแล้วตวบ คุมอาการได้ มอาการได้ดี แต่ช่ช่วงนี วงนีปัป ัสสาวะไม่ ออก ออก 1.

ควรเลือกใช้ อกใช้ยาแก้แพ้ใดในผู  ้ป่วยต่ วยต่อไปนี อไปนี 1)

Cetirizine

2)

CPM

3)

Tripolidine

4)

Bromphenilamine

5)

Cyproheptadine

ถ้าได้ใช้ Corticosteroid nasal spray จะพ่นอย่ นอย่างไร างไร นตรงๆ 1) พ่นตรงๆ นให้ปลายชีไปทางผนั ไ ปทางผนังกั งกันจมู น จมูก 2) พ่นให้ นให้ปลายชีไปทางผนั ไ ปทางผนังด้ งด้านข้างจมูก 3) พ่นให้ นเข้ารูจมูก 4) พ่นเข้ นยังไงก็ งไงก็ได้ ได้ แล้ แล้วแต่ ชนิ ชนิดของยา ดของยา 5) พ่นยั นไม่ถูถกตามวิ กู ตามวิธีธขี ้างต้ งต้น จะเกิด ADR อะไรขึน 3. ถ้าพ่นไม่ 2.

MCQ 1/2555 by CURx69 page 3

2)

แสบผนังกั งกันจมู น จมูก ติดเชื ดเชือแบคที อ แบคทีเรียในโพรงจมูก

3)

Peptic ulcer 

4)

เสียงแหบ ยงแหบ

5)



1)

4. Oxymethazoline

5.

ตารั ารับ

ห้ามใช้ในผู  ้ป่ วยกลุ ่ ่ วยกลุมต่ มต่อไปนี อไปนี ยกเว้น

1)

DM

2)

Glaucoma

3)

Cataract

4)

Hypertension

5)

Postatic hypertrophy

Oxymethazoline (E=0.30) 0.1 % NaCl

qs

Purified water

100 ml

จะปรับให้สู ตรต ตรตารั ารับ Isotonic ต้องใช้ NaCl เท่าไร าไร

6.

1)

0.70

2)

0.87

3)

0.90

4)

0.03

5)

0.60

ยา Prednisolone รูปแบบรับประทานเป็นยาใดตามกฎหมาย มพิเศษ เศษ เภสัชกรไม่ ชกรไม่สามารถจ่ สามารถจ่ายได้ ายได้ 1) เป็นยาควบคุมพิ านัน 2) ใช้ในสถานพยาบาลเท่านั มพิเศษ เศษ จ่ายได้ ายได้ตามใบสั งแพทย์ ง  แพทย์ 3) เป็นยาควบคุมพิ 4)



5)

….

เทียบยา A (generic) กับยา บยา B (Innovator) ทดสอบในผู  ้ชาย 24 คน แบบ 2 formulations…. formulations….ให้กราฟ AUC และตาราง ค่า AUC และ C และ ค่า 90% CI เปรียบเทียบ ยา A และ B มา (ค่า 90% CI ไม่ sig) ให้เปรียบเทียบ BE ของยาทัง 2 ตัว 7.

max

เทียบยา C (generic) กับยา บยา B (Innovator) ทดสอบในผู  ้ชาย ให้กราฟ AUC และตาราง ค่า AUC และ C และ ค่า 90% CI เปรียบเทียบ ยา C และ B มา (ค่า 90% CI sig) ให้เลือกยาเข้ อกยาเข้ารพ. 8.

max

MCQ 1/2555 by CURx69 page 4

Case 3: Duodenal ulcer 

ใบสั งยาจากแพทย์ ง  ยาจากแพทย์ สั งจ่ ง  จ่าย าย Omeprazole 20 mg OD #40 tabs 1. ข้อใดไม่ใช่ ใช่อาการของ อาการของ DU 1) ปวดจุก   ้รูสึ สกแสบท้ กึ แสบท้อง 2) เจ็บบริ บบริเวณลินปี น ป  ี 3) อุจจาระเป็ จจาระเป็นเลือดสด อดสด 4) อาการปวดเป็นมากขึนตอนท้  องว่าง าง 5) อาการดีขึ ขนตอนกิ ึ นยาลดกรด นยาลดกรด 2.

กลไกของยาที  กลไกของยาที ผ  ้ปู ่ วยได้ วยได้รับ 1)

H1 antagonist

2)

H2 antagonist

3)

M2 antagonist

4)

H+/K+ ATPase inhibitor 

5)

3.

4.

ถ้า  ้ผูป่วยได้ วยได้รับ antacid นา ร่วมด้ มด้วย ควรทายังไง งไง นร่วมกันได้ นได้เลย 1) กินร่ อน antacid 15 นาที 2) กิน Omeprazole ก่อน อน Omeprazole 15 นาที 3) กิน antacid ก่อน อน antacid 2 ชั วโมง ว  โมง 4) กิน Omeprazole ก่อน เปลียนไปใช้ ยนไปใช้ antacid tablet แทน 5) เปลี   ถ้า  ้ผูป่วยได้ วยได้รับ Ketoconazole ร่วมด้ มด้วย จะเกิดอะไรขึ ดอะไรขึน 1) 2) 3) 4) 5)

5.

ลดระดับยา บยา Ketoconazole ในเลือด อด เพิ   เพิมระดั มระดับยา บยา Ketoconazole ในเลือด อด ลดระดับ Omeprazole ในเลือด อด เพิ   เพิมระดั มระดับ Omeprazole ในเลือด อด เพิ   เพิมทั มทัง Ketoconazole และ Omeprazole ในเลือด อด

ควรจะแก้ปัญหานีอย่ อ ย่างไร างไร เปลียน ยน Omeprazole เป็น ranitidine 1) เปลี   2) เปลี   เปลียน ยน Omeprazole เป็น Pantoprazole 3) เปลี   เปลียน ยน Ketoconazole เป็น Itraconazole

MCQ 1/2555 by CURx69 page 5

4) 5)

6.

เปลี   เปลียน ยน Ketoconazole เป็น fluconazole กิน Omeprazole ตอนเช้ ตอนเช้า และกิน Ketoconazole ตอนเย็น

เหคุผลหลั ผลหลักในการท กในการทา pellet enteric coat o meprazole แล้วใส่ใน ใน capsule อีกที (delayed coated capsule) 1) ทาให้ยาออกฤทธิ นานขึ นานขึน 2) ยาดูดซึ ดซึมดี มดีที ท ลี าไส้เล็ก 3) ยาดูดซึ ดซึมได้ มได้ดีขนึ 4) ยาเป็น acid labile 5)

ชนิดใดใช้ ดใดใช้เคลือบ อบ enteric coat

7. polymer 

8.

9.

1)

HPMC

2)

HMC

3)

CAP

4)

MC

5)

PEG

ข้อใดไม่ใช่ ใช่ขัขันตอนการควบคุ น ตอนการควบคุมคุ มคุณภาพของยาเม็ ณภาพของยาเม็ดที  ดที กาหนดไว้ใน USP 1)

Solubility

2)

Disintegration

3)

Hardness

4)

Uniformity of content

5)

Percent labeled amount

ข้อใดถูกต้ กต้องเกี  งเกี ยวกับตารั บตารับยาเม็ ด 1)

Sodium starch glycolate

เป็นสารช่วยแตกตั วยแตกตัว

Case 4: Conjunctivitis 1.

  ้ผูป่ วยรายหนึ   วยรายหนึงมาพบท่ งมาพบท่านผู  ้ซึ  ึ งเป็ งเป็นเภสัชกรประจ ชกรประจาร้านยา จากการซักถามอาการ กถามอาการ   ้ผูป่ วยมีอาการตาแดง อาการตาแดง มีขตาสี ตี าสีเหลือง อง เขียว ยว คันตา นตา และมีนนาตาบ้ า  ตาบ้าง อาการนีน่น าจะเกิ า่ จะเกิดจากสาเหตุใด ใด 1) ติดเชื ดเชือแบคที อ แบคทีเรีย 2) ติดเชื ดเชือไวรั อ ไวรัส 3) อาการแพ้

MCQ 1/2555 by CURx69 page 6

2.

3.

4.

5.

6.

จากการซักประวั กประวัติตเพิ   เิ พิมเติ มเติม แต่เดิ เดิมผู ม  ้ผูป่วยใช้ วยใช้ chloramphenicol หยอดตา และรับประทาน บประทาน amoxicillin capsule ด้วย แต่  ้ผูผปู ่ วยมี วยมีประวั ประวัติตแพ้ แิ พ้ penicillin ท่านควรปรั านควรปรับเปลี ยนยาอย่ ย  นยาอย่างไร างไร 1) เปลี   เปลียนจาก ยนจาก chlorampenicol เป็น ciprofloxacin 2) เปลี   เปลียนจาก ยนจาก chlorampenicol เป็น ... 3) เปลี   เปลียนจาก ยนจาก amoxicillin เป็น ciprofloxacin 4) เปลี   เปลียนจาก ยนจาก amoxicillin เป็น azithromycin 5) ลด amoxicillin ลงครึ  ลงครึ งหนึ   หนึง คาแนะน าแนะนาในการหยอดตา chloramphenicol ที ที ถูกต้ กต้อง ควรทาอย่างไร างไร 1) เก็บยาหยอดตาไว้ บยาหยอดตาไว้ท อี ี ุณหภู ณหภูมิมห้หิ ้องปกติ ให้แสงสว่างส่ างส่องถึ องถึง 2) เมื   เมือหยอดตาเสร็ อหยอดตาเสร็จแล้ว หลับตาสั บตาสักครู ่ กครู ่ และไม่ควรใช้ ควรใช้ยาร่วมกับผู บ  ้ผูอ ื ืน 3) เก็บผลิ บผลิตภั ตภัณฑ์ ณฑ์เอาไว้ใช้ในครั งต่อไปได้ อไปได้อีกในคราวหน้ ในคราวหน้า หากใช้ หากใช้ไม่ หมด หมด 4) หากลืมหยอดตา มหยอดตา สามารถหยอดพร้อมกัน 2 หยดในครังถั ง ถัดไปได้ ดไปได้ 5) เมื   เมือใช้ อใช้ผลิตภั ตภัณฑ์ ณฑ์หมดแล้ว ให้เก็ บตั บตัวอย่ วอย่างไว้ างไว้เพื  พือขอซื อขอซือเพื   อ เพือแบ่ อแบ่งยาในครั งยาในครังต่ ง ต่อไป อไป ต่อมาผู อมาผู  ้ป่ วยรายนี วยรายนี  ตายั ตายังไม่ งไม่หายแดง หายแดง แต่มีมขีขี ตาสี ี  ขาวใส ขาวใส นาตาไหลมาก า ตาไหลมาก ไม่ค่คอยมี อ่ ยมีอาการคั อาการคัน และเยื  และเยื อบุตาไม่ ตาไม่บวม บวม   ้ผูป่ วย วย บอกเพิ   บอกเพิมเติ มเติมว่ มว่า ลูกชายที  กชายที บ้านก็มีมอาการดั อี าการดังกล่ งกล่าวด้ าวด้วย ท่านคิ านคิดว่ ดว่าน่ าน่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร อะไร ดเชือไวรั อ ไวรัส 1) ติดเชื ดเชือแบคที อ แบคทีเรีย แต่ติตดเชื ดิ เชือเพิ   อ เพิมอี มอีกตัวหนึ   วหนึง 2) ติดเชื 3) อาการแพ้ 4) ... 5) ... จากอาการข้ จากอาการข้างต้น ยาใดที  ยาใดที ไม่ควรจ่ ควรจ่ายให้ ายให้กับผู บ  ้ผูป่วยรายนี วยรายนี  1)

Artificial tear 

2)

Sulfacetamide eyedrop

3)

Dexamethasone eyedrop

4)

Antazoline + tetrahydrozoline

5)

Polymicin ATB combine

(

)

ยาใดที  ยาใดที สามารถทาให้ ให้เกิก ิด rhinitis medicamentosa 1)

Pseudoephedrine

2)

Phenylephrine + …

3)

Naphazoline

4)

Oxymetazoline

5)

...

MCQ 1/2555 by CURx69 page 7

7.

ถ้าท่านต้ านต้องการทายาหยอดตา ephedrine HCl ซึ  ซึงมี งมี 1% T ยา = -0.1 °C และ1% T นาตา  = -0.52 °C ถ้า = 0.26, E เกลือ = 0.52) ยาตาจะมีลั ต้องการเตรียมยาตา 1% solution (Eของ ลักษณะเป็ กษณะเป็นอย่างไร างไร f 



ephedrine HCl

8.

9.

1)

Hypotonic

2)

Isotonic

3)

Hypertonic

4)

Hyperosmotic

5)

Isoosmotic

หากแกะกล่องยาหยอดตา องยาหยอดตา chloramphenicol พบเอกสารกากับยา บยา สิ  สิงใดที  งใดที ไม่จจา เป็นต้องมีไว้ ไว้ในเอกสารกากับยา บยา 1) ชื  ชื อผู  ้ผลิต และ จังหวั งหวัดที  ดที ผลิต 2) สถานที  สถานที ผลิต 3) วันเดื นเดือนปี อนปี ที ที ทาการวิเคราะห์ เคราะห์ lot นี  4) วันเดื นเดือนปี อนปี หรืออักษรแสดงวั กษรแสดงวันที  นที วิเคราะห์ เคราะห์หรือผลิ ต 5) ... ต้องมีการเก็ การเก็บอย่ บอย่างไร างไร เก็บไว้ บไว้ในอุณหภู ณหภูมิมหิ ้อง หลีกเลี   กเลียงแสงแดด ยงแสงแดด แช่เย็ เย็นไว้ นไว้ โดยเก็บไว้ บไว้ตรงฝาเปิดตู  ้เย็ น แช่ตูต  ้เู ย็ น โดยเก็บไว้ตรงช่องปกติ องปกติ แช่ตูต  ้เู ย็ น โดยเก็บไว้ บไว้ในช่องแช่ องแช่แข็ แข็ง

Chloramphenicol eyedrop 1) 2) 3) 4)

Case 5: Epilepsy

นางสตรี อายุ 25 ปี Dx Tonic-clonic seizure Carbamazepine 200 mg bid F/U 2 week

1.

คาแนะน าแนะนาใดเหมาะสมในผู  ้ป่ วยรายนี วยรายนี  มเพือป้ อป้ องกันการตั นการตังครรภ์ ง ครรภ์ทารกวิ รูรปู 1) ควรรับประทานยาคุมเพื   างที กินยานี นยานีหลี ห ลีกเลี   กเลียงรั ยงรังสี UV 2) ระหว่างที  นยาก่อนอาหารเช้ อนอาหารเช้า-ก่อนนอน อนนอน 3) ควรกินยาก่ วิ หนัง-เล็บเปลี   บเปลียนสี ยนสี 4) อาจทาให้ผวหนั อาการไข้ เจ็บคอ บคอ และมีผื  ผนขึ นื ขึนควรไปพบแพทย์ น ควรไปพบแพทย์ 5) ถ้ามีอาการไข้ MCQ 1/2555 by CURx69 page 8

2.

สาเหตุของอาการชั ของอาการชัก ยกเว้น 1) head trauma 2)

ติดเชื ดเชือที  อ ที หูส่สวนกลาง ว่ นกลาง

3) hypoglycemia 4) brain tumor  5)

3.

ไข้สงในเด็ งู ในเด็กเล็ กเล็ก

กลไกการออกฤทธิ ของ ของ Carbamazepine 1) จับกั บกับ Na Channel ใน inactivated state 2) จับกั บกับ T-type Calcium Channel 3) GABA-Chloride 4) NMDA 5)

ยับยั บยัง 2

4. Carbamazepine

5.

nd

messenger 

นอกจากจะมีข้ข้อบ่งใช้ งใช้ในโรคลมชัก ยังสามารถรั งสามารถรักษาโรคอะไรได้

1)

Antianxiety

2)

Smooking withdrawal

3)

Trigeminal neuralgria

4)

Parkinsonism dysarthria

5)

Febrile convulsion

ยา Carbamazepine จะเพิ   จะเพิมขึ ม ขึนเมื   น เมือใช้ อใช้ร่วมกับ 1)

Folic acid

2)

Phenytoin

3)

Nevirapine

4)

Clarithromycin

5)

Mebendazole

มี polymorph ซึ  ซึงแต่ งแต่ละ ละ polymorph จะแตกต่างกั างกัน ยกเว้น จุดหลอมเหลว ดหลอมเหลว ความคงตัวทางเคมี วทางเคมี การละลายนา ประสิทธิ ทธิภาพการรั ภาพการรักษา ค่าคงที  าคงที การดูดกลื ดกลืนแสง นแสง

6. Carbamazepine 1) 2) 3) 4) 5)

MCQ 1/2555 by CURx69 page 9

7. Extemperaneous preparation CBZ suspension

โดยใส่

Sucrose

Paraben

200

ให้มีตัตัวยา วยา CBZ 200 mg/tsp

g

q.s. MC 400

2

g

Purified water

qs 500 ml

ให้มีตัตัวยา วยา 200 mg/tsp ต้องใช้ CBZ กี กี เม็ด เด็กกิ กกิน 1 tsp 1)

10

2)

20

3)

30

4)

60

5)

90

8. MC suspension

OD 30

วัน

ทาให้หนืดเมื   เมือตั อตังทิ ง ทิงไว้ ง ไว้ ไหลได้เมื  มือเขย่ อเขย่า เป็นการไหลแบบใด

1) Newtonian flow 2) Plastic flow 3) Pseudoplastic flow 4) Viscoplastic flow 5) Elastic flow 6)

ให้ ให้ใส ทาอย่างไร างไร บดกับ Sucrose คนผสมนา โปรยในนาเย็ า เย็น คนให้เข้ากัน แล้วเติมกรดเพื   มกรดเพือปรั อปรับ pH บดในนาเย็  น เติมด่ มด่างเพื   างเพือปรั อปรับ pH โปรยให้กระจายตัวในน วในนาเย็ า เย็น แล้วเติมน ม นาร้ อน โปรยให้กระจายตัวในน วในนาร้า ร้ อน อน แล้วเติ มน ม นาเย็ า เย็น

9. MC disperse 1) 2) 3) 4) 5)

10.

  ้ผูป่วยได้ วยได้ CBZ แล้วพบว่ายาหมดอายุ ายาหมดอายุมา มา 1 เดือน อน ข้อใดถูก 1) ยาปลอม 2) ยาเสื   ยาเสือมคุ อมคุณภาพ ณภาพ มคุีคณภาพ ณ ุ ภาพ 3) ยาไม่มี ดมาตรฐาน 4) ยาผิดมาตรฐาน ยาที ทะเบียนยาถู ยนยาถูกยกเลิ กยกเลิก 5) ยาที 

X

MCQ 1/2555 by CURx69 page 10

Case 6: Caontraceptive

สตรีอายุ 60 ปี อยู ่ ่ อยูระหว่ ระหว่างให้ างให้นมบุตร ตร มาปรึกษาเนื  ษาเนื องจากต้องการใช้ยาคุมก มกาเนิด ายยาคุมก มกาเนิดชนิ ดชนิดใดให้ ดใดให้หญิงรายนี 1. ควรจ่ายยาคุ 1) Ethinylestradiol + 2) 3) Lynesterol 4) 5)

. เหตุใดจึ ใดจึงต้ งต้องระมัดระวั ดระวังในการยาคุ งในการยาคุมก มกาเนิดที  ดที มี Estrogen ให้กับหญิ บหญิงที ที อยู ่ ่ยูระหว่ ระหว่างให้ างให้นมบุตร ตร เนื องจากยาอาจมีผลลดฮอร์ ผลลดฮอร์โมน Prolactin 1) เนื  เนื องจากยาสามารถผ่านน านนานมได้  และอาจมีผลต่อตั อตับของทารก บของทารก 2) เนื 

2

3) 4)

เนื  เนื องจากในหญิงให้ ให้นมบุ ตรมี ตรมีผนั ผนังมดลู งมดลูกที  กที บางอยู างอย ่ ่แล้ แู ล้ว การใช้ยาคุมก มกาเนิดอาจท ดอาจทาให้เกิดเลื ดเลือดออกระปริ อดออกระปริบกระ ปรอยได้ 5)

3.

  ้ผูป่ วยที  วยที มีภาวะใดมี ภาวะใดมีห้หา้ มใช้ฮอร์โมนที  ป ระกอบด้วย Estrogen 1) 2)

ลมชัก 4) มีภาวะลิ   ภาวะลิมเลื มเลือดอุ อดอุดตั ดตัน 3)

5)

4.

ข้อบ่งใช้ งใช้ของ Hormone Replacement Therapy คือข้ อข้อใด ใช้ป้ องกันภาวะกระดู นภาวะกระดูกพรุ กพรุนและกระดูกหั กหักในระยะยาวได้ กในระยะยาวได้ 1) ใช้ ผูท ี ีตัดมดลู ดมดลูกไปแล้ กไปแล้วสามารถใช้ estrogen อย่างเดี างเดียวได้ ยวได้ 2)   ้ 3) 4) 5)

MCQ 1/2555 by CURx69 page 11

5.

  ้ผุป่ วยที  วยที ได้รับ Hormone Replacement Therapy และไม่ต้ต้องการใช้มีเลื เลือดประจ อดประจาเดือน อน ควรจ่ายยาคุ ายยาคุมก มกาเนิดแบบใด ดแบบใด ดที มี Estrogen เพียงชนิ ยงชนิดเดี ดเดียว ยว 28 เม็ด 1) ยาเม็ดที  ดที มี Progesterone เพียงชนิ ยงชนิดเดี ดเดียว ยว 28 เม็ด 2) ยาเม็ดที  ดที มี Estrogen ชนิดเดี ดเดียว ยว 14 เม็ด และ Progesterone ชนิดเดี ดเดียว ยว 14 เม็ด 3) ยาเม็ดที  4) 5)

ยาเม็ดที  ดที มีทัทัง Estrogen และ Progesterone ทุกเม็ กเม็ด 28 เม็ด

6. Triphasic hormonal contraceptives

จัดเป็ ดเป็นยาประเภทใดตามกฎหมาย

ยาอันตราย นตราย 2) ยาที  ยาที ไม่ใช่ ใช่ยาอั ยาอันตราย นตราย มพิเศษ เศษ 3) ยาควบคุมพิ 1)

4) 5)

7.

ในการตรวจวัดระดั ดระดับยาคุ บยาคุมก มกาเนิดในเม็ ดในเม็ดยา ดยา ควรใช้วิธีธกี ารใดในการวัด 1) IR 2) HPLC 3) Specific rotation by polarimeter  4) Refractive index by refractorymeter  5) TLC

จากภาพ เป็เป็ นระบบน นระบบนาส่งยาที  งยาที เรียกว่าอะไร าอะไร

8. 1) Single-layer Drug-in-Adhesive 2) Multi-layer Drug-in-Adhesive 3) Reservoir  4) Matrix 5)

MCQ 1/2555 by CURx69 page 12

9.

ข้อดีของยาคุ ของยาคุมก มกาเนิดในรู ดในรูปแผ่นแปะที  นแปะที แตกต่างจากยาคุ างจากยาคุมก มกาเนิดแบบรั ดแบบรับประทานคื อข้ อข้อใด 1)

ทาให้เกิดผลข้ ดผลข้างเคียงได้ ยงได้น้อยกว่า oral contraceptive ทา ให้เกิดมะเร็ ดมะเร็งเต้านมเหมือน อน oral contraceptive 3) Patch ไม่ท 4) Patch ลด first pass metabolism ของ oral contraceptive 2) Patch

5) 10.

ในการทดสอบสูตรต ตรตารั ารับยาเม็ ด ข้อใดที  ใดที ไม่ได้ ได้ระบุไว้ ไว้ใน USP 1) Hardness 2) Dissolution 3) Disintegration 4) Content Uniformity 5) % Label Amount

Case 7: Gout

  ้ผูป่วยชาย วยชาย อายุ 53 ปี ป่วยเป็นโรคเกาต์ และความดันโลหิ นโลหิตสู ตสูง โดย 1 เดือนที  อนที ผ่านมามี านมามีอาการปวดเกาต์ อาการปวดเกาต์มากขึ มากขึน จากประวัติติ พบว่าเดิ าเดิมผู ม  ้ผูป่ วยได้ วยได้ยา HCTZ 50 mg OD เมื   เมือ 1 เดือนที   อนทีผ่ผานมาได้ า่ นมาได้รับยา Amiloride กับ HCTZ เพิ   เพิมขึ ม ขึน 1. ปัจจั ยใดที  ยใดที ทาให้ ให้ผ  ้ปู ่ วยเกิ วยเกิดอาการเกาต์ ดอาการเกาต์กกา เริบ 1)

HCTZ induced hypronatremia

จากโรคความดันโลหิ นโลหิตสูง 3) ได้รับยา HCTZ เพิ   เพิมขึ ม ขึน 4) ได้รับยา amiloride เพิ   เพิม 5) ... 2. จากสูตรโครงสร้ ตรโครงสร้างของ HCTZ จะใช้อะไรในการตรวจสอบเอกลักษณ์ กษณ์ของวัตถุ ตถุดิดบิ 2)

complication

1)

Fingerprint

2)

Dragendorff’s reagent

จาก FTIR

MCQ 1/2555 by CURx69 page 13

3)

Spectrofluorometry

4)

TLC

5)



3. อาหารที  อาหารที ผ  ้ปู ่ วยรายนี วยรายนีไม่ ไ ม่ควรรั ควรรับประทาน ปลาหมึกย่ กย่าง อน 2) ต้มยาปลาช่อน บหวาน 3) ตับหวาน 4) แกงบวชฟังทอง แดดเดียว ยว 5) หมูแดดเดี 4. ข้อใดกล่าวถู าวถูกต้ กต้องเกี  งเกี ยวกับ Colchicine 1)

3)

ใช้เป็นยาตัวแรกในการรั วแรกในการรักษา Acute gouty attack ห้ามใช้ในคนท้อง มีอัอันตรกิ นตรกิริรยิ ากับยากลุ ่ ่ บยากลุม Macrorides

4)



5)



1) 2)

5. ผลข้างเคียงที  ยงที พบบ่อยของ อยของ Colchicine 1)

Diarrhea

2)

Ototoxic

3)



4)



5)



6. กลไกการออกฤทธิ ของยา ของยา Allopurinol 1)

ลดการสร้าง uric

2)



ลดปฏิกิกิริรยิ าระหว่างระบบ างระบบ immune กับ 4) ลดการอักเสบ กเสบ 5) เพิ   เพิมการขั มการขับออกของ บออกของ uric 7. ยาต้านอักเสบตั กเสบตัวใดที  วใดที ไม่ควรใช้ ควรใช้ในโรคเกาต์ 3)

1)

Aspirin

2)

Diclofenac

3)

Celecoxib

4)

Piroxicam

urate crystal

MCQ 1/2555 by CURx69 page 14

5)

Ibuprofen

8. ให้สตรต ตู รตารั ารับมา 2 ต ารั ารับ ข้อใดถู ก สูตร ตร A

สูตร ตร B

Allopurinol

Allopurinol













Sodium starch glycolate

Microcrystalline cellulose

Magnesium stearate

15%

Sodium lauryl sulfate Magnesium stearate

1) 2) 3) 4) 5)

5%

... ... ยา A ละลายดีกว่ กว่ายา ายา B เพราะสูตรที  ตรที มี Mg stearate มากกว่า ช่วยให้ วยให้การละลายดีขึขนึ  ยา B ละลายดีกว่ กว่ายา ายา A เพราะสูตรมี ตรมี SLS เป็น wetting agent การละลายไม่แตกต่ แตกต่างกั างกัน

Case 8: Eczema

  ้ผูป่วยมี วยมีผนโดยเกิ ื  นื โดยเกิดอาการทุ ดอาการทุกครั กครังที  ง ที สัมผั มผัสฝุ สฝุ ่ ่ น โดยมีอาการผื   อาการผืนแดง นแดง ไม่มีมรอยถลอก รี อยถลอก ไม่มีมหนอง หี นอง มีรอยเกา รอยเกา 1.  ้ ผูป่ วยเป็ วยเป็ นโรคอะไร นโรคอะไร 1) Impetigo

2) Eczema

3) Folliculitis

4) Rosacea

5) Tinea corporis

คาแนะน าแนะนาในการปฏิบับัติตตัติ ัวข้ วข้อใดต่อไปนี อไปนีไม่ ไ ม่ถูถูกต้ กต้อง า วันละ นละ 2 ครัง 1) อาบนาวั น  บ่อยๆ อยๆ เพื   เพือให้ อให้ผวชุ ่ ่ วิ ชุมชื ม ชืน 2) ทาโลชั นบ่ 3) ทายาบางๆบริเวณที  วณที เป็ป็ น เ สือแขนยาวเพื   อ แขนยาวเพือป้ อป้ องกันฝุ นฝุ ่ ่ น 4) ใส่เสื 5) ล้างมือบ่ อบ่อยๆด้ อยๆด้วยClohexidine scrub เพื   เพือฆ่ อฆ่าเชื าเชือ

2.

ควรใช้ยาใดในการรักษา

3.

1) Antihistamine cream 3.)

.......... ointment

2) Burrow solution 4) Steroid cream

MCQ 1/2555 by CURx69 page 15

4.

หากต้องการ Ointment ที ที ล้างออกง่ายควรใช้ ายควรใช้เบสลักษณะใด กษณะใด 1) Olaginous

5.

2) O/W 3) W/O 4) PEG base

5) absorbtion

  ้ผูป่ วยมี วยมีอาการคั อาการคันมาก นมาก จึงมาขอซื งมาขอซือยา อ ยา hydroxyzine ข้อใดไม่ถูถกต้ กู ต้องเกี  งเกี ยวกับยา บยา hydroxyzine 1)hydroxyzine 1) hydroxyzine ในขนาดสูงสามารถใช้ งสามารถใช้เป็นยากันชั นชักได้ กได้ 2) อาการข้างเคียงเมื   ยงเมือใช้ อใช้ hydroxyzine สูงๆ งๆ คือชั อชัก และ ง่วงนอน วงนอน

6. Hydroxyzine

มีสูสตรโครงสร้ ตู รโครงสร้างดังนี ง นี  เป็ เป็นสูตรโครงสร้ ตรโครงสร้างแบบใด

1) Ethanolamine ether  2) Ethylenediamine 3) Phenothiazines 4) Piperazine

อาจทาให้อาการใดของผู  ้ป่ วยแย่ลง ลง 1) ความดันโลหิ นโลหิตสู ตสูง 2) เบาหวาน 3) ต่อมลู อมลูกหมากโต กหมากโต

7. Hydroxyzine

ยา Antihistamine ตัวใดที  วใดที ทาให้ ให้ ง่งว่ งมากที  งมากที สุด

8.

1) CPM

2) Hydroxyzine

3) Brompheniramine

4) Cetirizine

5) Tripolidine

Case 9: UTI

  ้ผูป่วยหญิ วยหญิงมีอาการปั อาการปัสสาวะกะปริ สสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะขั สสาวะขั ด แสบ มีอาการปวดท้ อาการปวดท้องน้อย มีลิ  ลมเลื มิ เลือดหลุ อดหลุดออกมาในปั ดออกมาในปัสสาวะ ยาที  ยาที ได้รบั Ciprofloxacin 1x2 pc 14 เม็ด Hyoscine 1x3 pc pc 20 เม็ด าแนะนาสาหรั าหรับยา Ciprofloxacin ข้อใดต่อไปนี อไปนีไม่ ไ ม่ถูถูกต้ กต้อง 1. คาแนะน บให้พ้นแสง 1) เก็บให้ กเลียงการกิ ยงการกินพร้ นพร้อมกับ ชา กาแฟ 2) หลีกเลี   กเลียงการรั ยงการรับประทานพร้อมกับนม บนม 3) หลีกเลี   MCQ 1/2555 by CURx69 page 16

4) 5)

2.

ถ้าลืมรั มรับประทานยาให้รับประทามือต่ อ ต่อไป อไป 2 เม็ด หากกินร่ นร่วมกับยา บยา Antacid ให้กินห่ นห่างกั างกัน 2 ชม.

อาการข้างเคียงของยา ยงของยา Ciprofloxacin ที ที รุนแรงและสาคั าคัญคื ญคือ 1)

Tendinitis

2)

Dizziness

3)

Restlessness

4)

Ototoxic

5)

Burning sensation

เมื   เมือผู อผู  ้ป่วยรั วยรับประทานยาไปสักพั บประทานยาไปสั กพักอาการปั กอาการปัสสาวะแสบขัดดี ดดีขึขนแต่ ึ  มีมอาการปวดข้ อี าการปวดข้อและเอ็นมาก นมาก เภสัชกรควรแนะน ชกรควรแนะนา อย่างไรจึ างไรจึงจะดี งจะดีที ท สี ุด ดรับประทานยาทังสองชนิ งสองชนิดและไปพบแพทย์ ดและไปพบแพทย์ 1) หยุดรั ดยา Hyoscine และจ่ายยาแก้ ายยาแก้ไขอาการ 2) หยุดยา เปลียนยา ยนยา Hyoscine เป็น Mefenamic acid 3) เปลี   ดยาทัง 2 ตัวและไม่ วและไม่ต้ต้องทาอะไรเนื  อะไรเนื องจากรับประทานยามา ประทานยามา 5 วันแล้ นแล้ว 4) สามารหยุดยาทั ต อไปเนื  อ่ ไปเนื องจากอาการดังกล่ งกล่าวสามารถหายได้ าวสามารถหายได้เองใน 1 สัปดาห์ ปดาห์ 5) รับประทานยานีต่

3.

4. Hyoscine

5.

มีข้ข้อห้ามใช้ในโรคต่างๆต่ างๆต่อไปนี อไปนี ยกเว้ ยกเว้น 1)

Glaucoma

2)

Gut obstruction

3)

Duodenal ulcer 

4)

Urinary obstruction

5)

Myastenia gravis

หากคนไข้ทายาหายแล้วมาขอซือยาที  อยาที ร้ าน าน สามารถจ่ายให้ ายให้ได้หรือไม่ ายได้ทังคู ่ ่ งคู เนื  เนื องจากเป็ งจากเป็ นยาอั นยาอันตราย นตราย 1) จ่ายได้ สามารถจ่ายยา ายยา Hyoscine ได้เนื นื องจากเป็ งจากเป็ นวั นวัตถุ ตถุออกฤทธิ ออกฤทธิ  2) ไม่สามารถจ่ 3) ไม่สามารถจ่ สามารถจ่ายยา ายยา Hyoscine ได้เนื นื องจากเป็ งจากเป็ นยาเสพติ นยาเสพติด 4) ไม่สามารถจ่ สามารถจ่ายยา ายยา Ciprofloxacin ได้เนื นื องจากเป็ งจากเป็ นยาควบคุ นยาควบคุมพิ มพิเศษ เศษ 5) ไม่สามารถจ่ สามารถจ่ายได้ ายได้เนื นื องจากไม่มีมใบสั ใี บสั งแพทย์ ง  แพทย์ MCQ 1/2555 by CURx69 page 17

6.

7.

หากที  หากที อยู ่ ่ยูโรงงานบนฉลากยาไม่ โรงงานบนฉลากยาไม่เป็เป็ นไปตามความ นไปตามความจริ จริง ยานีจัจ ัดเป็ ดเป็นยาใด 1) ยาปลอม ยาเสือมคุ อมคุณภาพ ณภาพ 2) ยาเสื   ดมาตรฐาน 3) ยาผิดมาตรฐาน หากผู  ้ป่ วย วย cystitis รายนีกก าลังตั งตังครรภ์ ง ครรภ์ด้วย ควรพิ จารณายาใดให้ จารณายาใดให้แก่  ้ผุผปุ ่ วย 1) Ciprofloxacin 2) Cephalexin

3) Cloxacillin

4) Bactrim

5) Doxycycline

ยา3 ตารั ารับมี การตกตะกอนดั การตกตะกอนดังนี ง นี 

8.

เวลา

A

B

C

0

10

10

10

1

9

9.9

9

12

8

9.8

8

24

7

9.6

7

48

6

9.6

7

96

5

9.6

7

Redispersable

60

4

10

ข้อใดถูกต้ กต้อง

5)

ตารั ารับ A มี sedimentation volume สูงสุ งสุด และมีการกระจายตั การกระจายตัวดี วดีที ท สี ุด ตารั ารับ B มีการกระจายตั การกระจายตัวดี วดีที ท สี ุด ตารั ารับ A มีอัอัตราการตกตะกอนช้ ตราการตกตะกอนช้า ตารั ารับ B มีอัอัตราการตกตะกอนเร็ ตราการตกตะกอนเร็วที ที สุด ตารั ารับ C มี sedimentation volume สูงสุ งสุด

1)

Redisperse

1) 2) 3) 4)

ข้อใดถูก

9.

ใช้วัดประสิ ดประสิทธิ ทธิภาพของ ภาพของ wetting agent ในตารั ารับ

MCQ 1/2555 by CURx69 page 18

Case 10: AIDS and TB

  ้ผูป่วยมาด้ วยมาด้วยอาการไข้ ยอาการไข้ ไอเรือรั อ รัง ท้องเสียหลายเดื ยหลายเดือน อน น้าหนักลด กลด มี CD4 190 cell/mm3, anti HIV (+), viral load pending 1.

2.

3.

4.

5.

การจะตรวจว่าผู า  ้ผูป่ วยเป็ วยเป็ นวั นวัณโรคต้ ณโรคต้องตรวจหาเชืออะไร  1) Gram positive

2) Gram negative

4) Papanicolaou positive

5) Indian ink positive

วินินจฉั จิ ฉัยว่ ยว่าผู า  ้ผูป่ วยเป็ วยเป็ น ดเชือ HIV แต่ไม่ ไม่ใช่ ใช่  ้ผูผปู ่ วยเอดส์ วยเอดส์ 1) ติดเชื ทราบ ต้องดูค่ค่า viral load 3) ไม่ทราบ

3) Acid fast positive

2) ติดเชื ดเชือวั อ วัณโรคแต่ ณโรคแต่ไม่ ไม่เป็ เป็นเอดส์ แน่นอน นอน 4) เป็นเอดส์แน่

การดูแลผู แลผู  ้ป่วยรายนี วยรายนีข้ข ้อใดไม่ถูถกต้ กู ต้อง อกสูตร ตร GPO-vir หลังรั งรักษา TB 2 -4 สัปดาห์ ปดาห์ 1) เลือกสู กเลียงการใช้ ยงการใช้ยาในกลุ ่ ่ าในกลุม Protease Inhibitors 2) หลีกเลี   อกใช้ยา Nevirapine 3) เลือกใช้ เปลียนเป็ ยนเป็น Efavirenz เพื   เพือป้ อป้ องกันการเกิ นการเกิดอั ดอันตรกิ นตรกิริรยิ ากับยา บยา Rifampin 4) เปลี   นยาแบบ DOT 5) ให้กินยาแบบ กลไกของ antiretroviral บยังเอนไซม์ ง เอนไซม์ reverse transcriptase 1) Lamivudine ยับยั บยัง Pr otease 2) Abacavir ยับยั otease บยังการเข้ ง การเข้าเซลล์ 3) Nevirapine ยับยั บยัง Protease 4) Ritonavir ยับยั บยังเอนไซม์ ง เอนไซม์ integrase 5) Enfuvertide ยับยั คุณสมบั ณสมบัติติ Autoinducer ของ Nevirapine คือ 1) ยาทาลายตัวเอง วเอง 2) ยาทาลายยาอื  ลายยาอื น 3) ยาเพิ   ยาเพิมการท มการทางานของเอนไซม์ตัตับท บทาให้ยาออกฤทธิ เร็เร็วขึน 4) ยากระตุ   ้นระบบภู มิมคุคิ  ้มุ กัน.ให้ทางานมากขึน 5) ยาช่วยลดความเสี   วยลดความเสียงในการเกิ ยงในการเกิดอาการไม่พึพงประสงค์ งึ ประสงค์

MCQ 1/2555 by CURx69 page 19

6.

7.

8.

ข้อใดคืออาการไม่ ออาการไม่พึพงประสงค์ งึ ประสงค์ของ stavudine 1)

metabolic alkalosis

2)

urine discoloration

3)

lipodystrophy

4)

insulin resistant

5)

osteoporosis

ข้อใดคือสู อสูตรโครงสร้ ตรโครงสร้างของ d4T

1)

2)

3)

4)

สูตรยาเม็ ตรยาเม็ดเคลื ดเคลือบฟิ อบฟิล์ม Ethambutol สารใดเป็นสารช่วยแตกตั วยแตกตัว 1) sodium starch glycolate 2) hypromellose 3) colloidal silicon dioxide 4) magnesium stearate

9.

ขัขันตอนใดส่ น ตอนใดส่งผลต่ งผลต่อ content uniformity 1) Mixing

10.

2) Drying

3) Tableting

4) Coating

5) Slugging

ข้อใดไม่ใช่ ใช่ข้ข้อดีของ ของ DOT เพิมความร่ มความร่วมมือในการใช้ อในการใช้ยาของผู  ้ป่ วย 1) เพิ   เพิมบทบาทของญาติ มบทบาทของญาติในการดู ในการดูแลผู แลผู  ้ป่วย วย 2) เพิ   าใช้จ่ายโดยรวมในการรั ายโดยรวมในการรักษา 3) ลดค่าใช้ 4) ลดระยะเวลาในการรักษา อ ยา 5) ลดปัญหาการดือยา MCQ 1/2555 by CURx69 page 20

Case 11: Vaccine

เด็กแรกเกิ กแรกเกิดต้ ดต้องฉีดวัคซี คซีนป้ป้ องกันโรคอะไร นโรคอะไร 1) วัคซี คซีนวัณโรค ณโรค 2) วัคซี คซีนไข้หวัดใหญ่ ดใหญ่ 3) วัคซี คซีนไข้สมองอักเสบ กเสบ 4) วัคซี คซีนหัด คางทูม หัดเยอรมั ดเยอรมัน 5) วัคซี คซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก 2. เมื   เมือเด็ อเด็กทารกคลอดออกมาจะได้ กทารกคลอดออกมาจะได้รับการกระตุ  ้นให้สร้ร้ างแอนติ างแอนติบอดี บอดีใดเป็ ใดเป็นตัวแรก วแรก 1.

3.

4.

1)

IgA

2)

IgE

3)

IgD

4)

IgG

5)

IgM

ข้อใดไม่อยู ่ ่ อยูในโปรแกรมเสริ ในโปรแกรมเสริมสร้างภูมิมคุคิ  ้มุ กันพื น พืนฐาน น ฐาน 1)

BCG

2)

DTP

3)

Heptatitis A

4)

Poliomyolitis

5)

Japanese encephalitis

วัคซี คซีน DTP ต้องฉีดห่างกั างกันกี  นกี เดือน อน อน 1) 1 เดือน อน 2) 2 เดือน อน 3) 3 เดือน อน 4) 4 เดือน อน 5) 5 เดือน

เด็กมาฉี กมาฉีด Hep B เข็มที   มที 2 ตามนัด แพทย์นัดฉี ดฉีดเข็มถั มถัดไปอี ดไปอีก 4 เดือนข้ อนข้างหน้า แต่ แต ่อีอกี 2 เดือนเด็ อนเด็กต้ กต้องไปต่างประเทศ างประเทศ และอยู ่ ่ และอยูที ท นี  ันนาน น  นาน 3 เดือน อน ควรแนะนาอย่างไร างไร 1) เริ  เริ มฉีดเข็มที   มที 1 ใหม่ เมื   เมือเด็ อเด็กกลั กกลับจากต่ บจากต่างประเทศ างประเทศ กฉีดเข็มที   มที 3 เมื   เมือกลั อกลับมาถึ บมาถึง 2) ให้เด็กฉี กเลือนมาฉี อนมาฉีดเข็มที   มที 3 ก่อนไปต่ อนไปต่างประเทศ างประเทศ 3) ให้เด็กเลื   คซีนเข็มที   มที 3 ไปเลยไม่ต้ต้องฉีด 4) ให้ข้ามวัคซี 5) ไม่ต้ ตอ้ งฉีดแล้ว เพราะวัคซี คซีน HepB ฉีดแค่สองเข็ สองเข็ม 5.

MCQ 1/2555 by CURx69 page 21

6.

7.

8.

9.

การทดสอบวัคซี คซีนโดยฉีดเข้าเส้นเลือดที  อดที หูกระต่ กระต่ายแล้ ายแล้ววัดไข้ ดไข้เรียกว่า 1)

Identity test

2)

Sterility test

3)

Potency test

4)

Toxicity test

5)

Purity test

ใส่ Alum ใน Vaccine เพื   เพือเป็ อเป็น Adjuvant มีประโยชน์ ประโยชน์อย่ างไร างไร 1) เพิ   เพิมการตอบสนองต่ มการตอบสนองต่อภู อภูมิมคุค  ้ิ มุ กั น 2) ทาให้ไวรัสอ่ อนฤทธิ อนฤทธิ ลง ลง 3) เพิ   เพิมการละลายน มการละลายนา 4) เพิ   เพิมความคงตั มความคงตัวของวั วของวัคซี คซีน 5) ต้านเชือจุ อ จุลชี ลชีพขึน ควรใช้วธีธิ ใี ดในการทาให้วัคซี คซีนประศจากเชือ 1)

Dry Heat

2)

Filtration

3)

Gamma – radiation

4)

Autoclave

5)

Chemical treatment

วัคซี คซีนใดต้องเก็บในช่ บในช่องแช่ องแช่แข็ แข็งเพื   งเพือความคงตั อความคงตัวของวั วของวัคซี คซีน

10.

1)

DTP

2)

OPV

3)

Rabies

4)

Typhoid

5)

Hepatitis B

หลักการบริ กการบริหารยาแบบ FIFO หมายถึงอะไร งอะไร 1) จ่ายยาที  ายยาที โรงพยาบาลซือมาก่ อ มาก่อนให้ อนให้ป่วยก่อน อน ายยาที โรงพยาบาลซือมาล่ อ มาล่าสุ าสุดให้ ดให้  ้ผปู ่ วยก่ วยก่อน อน 2) จ่ายยาที  ด ซือ lot ยาที  ยาที ผลิตล่ ตล่าสุ าสุด และจาหน่ายออกไปใช้ ายออกไปใช้ก่อน อน 3) จัดซื ด ซือ lot ยา.... 4) จัดซื

MCQ 1/2555 by CURx69 page 22

Case 12: Drug Allergy

  ้ผูป่วยกิ วยกินยา นยา ibuprofen หลังจากกิ งจากกินยาได้ นยาได้ 3 วัน ปรากฏว่ามี ามีผื  ผนขึ ืน ขึน จึงมาพบเภสั งมาพบเภสัชกรที  ชกรที ร้ านยา านยา พบว่า ลักษณะผื  กษณะผื นเป็เป็ น maculopapular rash

ข้อมูลการซั ลการซักประวั กประวัติตใด ใิ ด จาเป็ เป็ นน้ นน้อ ยที  ยที สุด ขนาดยาที ได้รับ 1) ขนาดยาที  2) เวลาที  เวลาที เริ ริ มกินยา นยา ตการใช้ กิ ารใช้ยาในอดีต 3) ประวัติ 4) ลักษณะของผื   กษณะของผืน 5) ยาอื  ยาอื นที ที รับประทานร่ บประทานร่วมด้ มด้วย 2. พบว่าแพ้ าแพ้มาเป็นเวลานาน 3 วันหลั นหลังรั งรับประทาน บประทาน ลัลักษณะการแพ้ กษณะการแพ้แบบนีเป็ น Hypersensitivity ชนิดใด ดใด หากใช้เกณฑ์ พิจารณาของ จารณาของ Gell และ Coombs 1.

3.

4.

1)

anaphylactic hypersensitivity

2)

cytotoxic hypersensitivity

3)

immune complex hypersensitivity

4)

delayed hypersensitivity

5)

immediate hypersensitivity

หากแพ้ยา ibuprofen จะแพ้ จะแพ้ยาใดได้อีก หากพิจารณาตามโครงสร้ จารณาตามโครงสร้าง 1)

Diclofenac

2)

Naproxen

3)

Indomethacin

4)

Aspirin

5)

Piroxicam

  ้ผูป่ วยที  วยที ฆ่าตั าตัวตายด้ วตายด้วยการรับประทานยา paracetamol เกินขนาดจะเกิ นขนาดจะเกิดพิ ดพิษต่ ษต่อตั อตับแบบใด บแบบใด 1)

Cholestasis hepatitis

2)

Hepatitic fibrosis

3)

Hepatocellular hepatitis

4)

Granulomatous hepatitis

5)

Steatosis

MCQ 1/2555 by CURx69 page 23

หากได้รับ paracetamol ไป 4 ชั วโมง ว  โมง แล้ว อยากทราบว่าความเข้ าความเข้มข้นของระดับยาในเลื บยาในเลือดเป็ อดเป็นเท่าใดจึงต้ งต้องเริ  งเริ มมีการ การ มอนิเตอร์ เตอร์พิ ษจากยา ษจากยา 5.

6.

1)

150 micromoles per litre

2)

200 micromoles per litre

3)

400 micromoles per litre

4)

1000 micromoles per litre

5)

1300 micromoles per litre

สารใดต่อไปนี อไปนี ที ที ใช้ช้ในการแก้พิ ษจาก ษจาก paracetamol 1)

flumazenil

2)

naloxone

3)

pralidoxime

4)

N-acetyl cysteine

7. Ibuprofen

หรือ iso-butyl-propanoic-phenolic acid จะสามารถออกฤทธิ แก้ แก้ปวดได้ต้องอยู ่ ่ งอยูในรู ในรูป (S)-enantiomer 

เพราะเหตุใด ใด ออกฤทธิ ต้ต้านการอักเสบได้ กเสบได้ดีกว่า (-)-isomer  ต้านการอักเสบได้ กเสบได้ดกว่ กี ว่า (+)-isomer  2) (s)-enantiomer ออกฤทธิ ต้ 3) การใช้ racemic mixture มีประสิ ประสิทธิ ทธิผลดีสุสดุ ต้านการอักเสบได้ กเสบได้ดกว่ กี ว่า (R)-enantiomer  4) (S)-enantiomer ออกฤทธิ ต้ ต้านการอักเสบได้ กเสบได้น้อยกว่า (R)-enantiomer  5) (S)-enantiomer ออกฤทธิ ต้ ดใด 8. การเตรียม paracetamol SR จะต้องใช้ polymer ชนิดใด 1)

(s)-enantiomer 

1)

HPMC

2)

Magnesium stearate

3)

Microcrystalline cellulose

4)

Colloidal silicon dioxide

MCQ 1/2555 by CURx69 page 24

มีการศึ การศึกษาการใช้ กษาการใช้ยา NSADs ในผู  ้สงอายุ งู อายุเที เทียบกับยากลุ ่ ่ บยากลุมอื  มอื นๆ เพื   เพือดู อดูโอกาสในการเกิ โอกาสในการเกิด maculopapular rash พบว่ามี ามี กต้อง Rate ratio 16, Confident interval of RR 3.6-76.5 ข้อใดถูกต้

9.

1)

2)

การใช้ยา NSADs ในผู  ้สงอายุ งู อายุมีมโอกาสในการเกิ ีโอกาสในการเกิด maculopapular rash มากกว่าผู าผู  ้สงอายุ งู อายุที ท ใี ช้ช้ยากลุ าก ลุ ่ ่มอื  มอื นๆ ร้อยละ 16   ้ผูสงอายุ งู อายุที ท ใี ช้ช้ยา NSADs มีโอกาสในการเกิ โอกาสในการเกิด maculopapular rash เมื   เมือเที อเทียบกับผู บ  ้ผูท ี ีใช้ช้ยากลุ าก ลุ ่ ่มอื  มอื นๆ 16 เท่า

Miscellaneous 1.

สารใดที  สารใดที ช่วยกลบรสขมของยา วยกลบรสขมของยา 1) Citric acid 2) PEG 400 3) Menthol 4) Hypomellose 5) NaCl

ยานาที  า ที เตรียมจากยาเม็ดแบบ ดแบบ extemporaneous จะมี Beyond Use Date นานเท่าไร าไร 1) 14 วัน 2) 30 วัน 3) เท่ากั ากับวั บวันหมดอายุ นหมดอายุของยาเม็ ของยาเม็ด 4) เท่ากั ากับครึ  บครึ งหนึ   หนึงของอายุ งของอายุยาเม็ ยาเม็ดที  ดที เหลือ 3.การหาประสิทธิ ทธิผลของยา ผลของยา เทียบกับราคา บราคา เรียกว่าเป็ าเป็นการศึกษาอะไร กษาอะไร 2.

1) Efficacy 2) Efficiency 3) Effectiveness 4) Cost 4.

ในการทดสอบ BE อะไรเป็นสิ  สิงส งสาคัญที  ญที ใช้ช้ 1) AUC + Cmax 2) AUC + Tmax 3) AUC + Elimination half-life 4) Cmax + Elimination half-life 5) Tmax + Elimination half-life

MCQ 1/2555 by CURx69 page 25

MCQ 1/2555 by CURx69 page 26

View more...

Comments

Copyright ©2017 KUPDF Inc.
SUPPORT KUPDF