1298_ข้อสอบมวิทย์ม.2

July 29, 2017 | Author: Jormkwan Juntamaneechote | Category: N/A
Share Embed Donate


Short Description

Download 1298_ข้อสอบมวิทย์ม.2...

Description

ข้อสอบกลุ่มสาระการเรียนร้้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2

สาระที่ 1 สิ่งมีชิวิตกับกระบวนการดำารงชีวิต

มาตรฐาน ว.1.1 ม.2/1 อธิบายโครงสร้างและการทำางานของระบบการยุอย อาหาร ระบบหม่นเวียนเลือด ระบบหายใจ ระบบขับถุาย ระบบสืบพันธ์่ ของมน่ษย์และสัตว์รวมทั้งระบบประสาทของมน่ษย์ พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา

1.กระเพาะอาหารของคนเรามีเ อนไซม์ ช นิ ดใดช่ ว ยในการย่ อ ยอาหารและ ทำางานไดูดีในสภาวะเช่นใด

ค. อะไมเลส / เบส

ข. เปปซิน / กรด

ก.ไลเปส / เบส

ไฮโดรคลอก / กรด

ง. กรด

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์

2.ขูอใดกล่าวถ้กตูองเกี่ยวกับปริมาณนำ้าที่ถ้กกำาจัดออกนอกร่างกาย ก. ปั สสาวะ > ลมหายใจออก > เหงื่อ

ข.

ปั สสาวะ > เหงื่อ >

ค. เหงื่อ > ปั สสาวะ > ลมหายใจออก ง.

เหงื่อ > ลมหายใจ

ลมหายใจออก

ออก > ปั สสาวะ

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ

3.อาหารในขูอใดต่อไปนี้ ใหูพลังงานส้งสุดในปริมาณที่เท่ากัน ก. มันเชื่อม

ค. ผัดผักรวมมิตร

พฤติกรรมที่วัด ทักษะกระบวนการ

ข. ขูาวผัดไก่

ง. ขูาวเหนี ยวทุเรียน

4. ขูอใดกล่าวถ้กตูอง

ก. รังไข่ทำาหนูาที่ผลิตไข่และฮอร์โมน

ข. การตกไข่จะเกิดขึ้นภายหลังจากไข่ไดูรบ ั การปฏิสนธิ

ค. อัณฑะจะสรูางฮอร์โมนเพศชาย มดล้กสรูางฮอร์โมนเพศหญิง

ง. ผนั งชั้นนอกของมดล้กเมื่อมีการสลายตัวของหลอดเลือด เรียกว่า

ประจำาเดือน

มาตรฐาน ว.1.1 ม.2/2 อธิบายความสัมพันธ์ของระบบตุางๆของมน่ษย์ และนำาความร้้ไปใช้ประโยชน์

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา

5. ขูอใดส่งผลใหูเกิดโรคความดันโลหิตส้งมากที่สุด ก. หลอดเลือดขยาย

ค. ผนั งหลอดเลือดเปราะ

ข. หลอดเลือดเกิดการอุดตัน

ง. ระดับไขมันในเสูนเลือดตำ่า

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ

6. โครงสรูางใดในระบบย่อยอาหารที่ไม่ไดูผลิตนำ้าย่อย 1. ผนั งของกระเพาะอาหาร

2. ผนั งลำาไสูส่วนโคลอน

ก. 1 และ 2

ข. 2 และ 3

3. ตับ

ค. 1, 2 และ 3

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใชู

4. ผนั งลำาไสูส่วนด้โอดีนัม ง. 2, 3 และ 4

7. การทดสอบโปรตีน มักจะใชูเนื้ อปลาโดยการเติมสารละลายไบย้เร็ตลงไป จะไดูสีม่วงหากไม่

เนื้ อปลาจะใชูส่ิงใดแทน ก. มะละกอ ค. ฟั กทอง

พฤติกรรมที่วัด ทักษะกระบวนการ

ข. ถัว่ ฝั กยาว ง. นำ้าเตูาหู้

8. คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน มีธาตุใดที่เป็ นส่วนประกอบเหมือนกัน ก. คาร์บอนและออกซิเจน

ค. ไนโตรเจนและคาร์บอน

ข. ไฮโดรเจนและกำามะถัน

ง. ไฮโดรเจนและไนโตรเจน

มาตรฐาน ว.1.1 ม.2/3 สังเกตและอธิบายพฤติกรรมของมน่ษย์ที่ตอบ สนองตุอสิ่งเร้าภายนอกและภายใน พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา

9. การที่นกนางแอ่นอพยพจากประเทศจีนเขูามาในประเทศไทยในฤด้ หนาวเนื่ องจากในอิทธิพลจากสิ่งใด ก. แสงสว่าง

ค. สารอาหาร

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ

ข. อุณหภ้มิ

ง. สัญชาตญาณ

10. สิ่งมีชีวิตที่อย่้ในแหล่งที่อย่้แบบใดมีความสามรถในการปรับตัวไดูดี ที่สุดเพื่อทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดลูอม ก. กูนทะเล

ค. ป่ าชายเลน

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใชู

ข. สระนำ้าจืด ง. ป่ าสน

11. การใส่ปุุยใหูตูนไมูคราวละมากๆ จะมีผลเสียแก่พืชดังต่อไปนี้ ยกเวูน ขูอใด

ก. พืชด้ดนำ้าจากดินมากเกินไปจนดินขากนำ้า ความเขูมขูนส้งมาก

ค. เกิดการออสโมซิสออกจากเซลล์พืช

ข. สารละลายในดินมี

ง. พืชเหี่ยวเฉา

พฤติกรรมที่วัด ทักษะกระบวนการ

12. สภาพแวดลูอมที่ไม่จำาเป็ นต่อการงอกของเมล็ดคือ? ก. นำ้า

ค. อุณหภ้มิ

ข. แก๊สออกซิเจน ง. แสงสว่าง

มาตรฐาน ว.1.1 ม.2/4 อธิบายหลักการและผลของการใช้เทคโนโลยี

ชีวภาพในการขยายพันธ์ ปรับปร่งพันธ์ และเพิ่มผลผลิตของสัตว์ และนำา ความร้้ไปใช้ประโยชน์

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา

13.ขูอใดไม่ใช่จุดมุ่งหมายสำาคัญของการปรับปรุงพันธ์สัตว์ ก. ทนต่อโรค

ค. สัตว์แข็งแรง

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ

ข. เพิ่มผลผลิต ง. กำาหนดเพศ

14.การปล้กถ่ายอวัยวะในสิ่งมีชีวิตเพื่อใหูสามารถนำาอวัยวะที่ปลุกถ่ายมาใชู ประโยชน์ไดูเป็ นเทคโนโลยีชีวภาพแบบใด ก. พันธุวิศวกรรม

ข. การปรับปรุงพันธ์

ค. การผสมขูามพันธ์

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใชู

ง. การถ่ายฝากตัวอ่อน

15.ขูอใดกล่าวถ้กตูองที่สุด

ก. การโคลนนิ่ งเป็ นการสืบพันธ์ุแบบเพศ

ข.เทคโนโลยีชีวภาพไม่สามารถช่วยผู้มีบุตรยากไดู

ค. การผสมขูามพันธ์ุจะทำาใหูล้กผสมมีลักษณะตามตูองการและ

ตูองการสืบพันธ์ุไดู

ง. การโคลนนิ่ งที่ประสบความสำาเร็จต่อจากการโคลนนิ่ งแกะคือการ

โคลนนิ่ งลิง

พฤติกรรมที่วัด ทักษะกระบวนการ

16. การนำายีนที่สรูางฮอร์โมนอินซ้ลินจากสัตว์ชนิ ดหนึ่ งไปตัดต่อใหูแบทที เรียชนิ ดหนึ่ ง ปรากฏว่าแบททีเรียสามารถสรูางฮอร์โมนอินซ้ลินไดู เป็ น เทคโนโลยีแบบใด ก. โคลนนิ่ ง

ค. พันธุวิศวกรรม

ข. ชีวเคมี

ง. การปรับปรุงพันธ์

มาตรฐาน ว.1.1 ม.2/5 ทดลองวิเคราะห์และอธิบายสารอาหารในอาหารที่มี ปริมาณ พลังงานและสัดสุวนที่เหมาะสมกับเพศและวัย พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา

17.อาหารในขูอใดต่อไปนี้ ใหูพลังงานส้งสุดในปริมาณที่เท่ากัน ก. มันเชื่อม

ค. ผัดผักรวมมิตร

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ

ข. ขูาวผัดไก่

ง. ขูาวเหนี ยวทุเรียน

18.เมื่อนำาอาหารชนิ ดหนึ่ งมาทดสอบดูวยสารละลายเบเนดิกต์ไดูสีน้ ำาเงิน

และตรวจสอบดูวยสารละลายไบย้เร็ตไดูสีม่วง แสดงว่าอาหารชนิ ดนี้ มีสาร ใดเป็ นองค์ประกอบ ก. ไขมัน

ค. วิตามิน

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใชู

ข. โปรตีน

ง. คาร์โบไฮเดรต

19.เพราะเหตุใดจึงแนะนำาใหูเด็กเล็กๆ ดื่มนมถัว่ เหลืองแทนนมวัว ก. ราคาถ้กแต่มีประโยชน์

ข. มีวิตามินและเกลือแร่ครบ

ค. ทำาจากพืชไม่มีคอเลสเทอรอล

ง. มีกรดอะมิโนที่จำาเป็ นต่อร่างกายครบทุกชนิ ด

พฤติกรรมที่วัด ทักษะกระบวนการ

20. เมื่อรับประทานอาหารกลางวัน สารอาหารที่มีอย่้ในร่างกายประเภทใด จะถ้กนำาไปใชูเป็ นอันดับแรก ก. ไขมัน

ค. วิตามิน

ข. โปรตีน

ง. ไกลโคเจน

มาตรฐาน ว.1.1 ม.2/6 อภิปรายผลของสารเสพติดตุอระบบตุางๆของ รุางกายและแนวทางในการป้ องกันตนเองจาสารเสพติด พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา

21. สารนิ โคติน มีผลต่อร่างกายทางดูานใดมากที่สุด ก. อารมณ์ดี

ข. รับประทานอาหารไดูมากขึ้น

ชูา

ค. กระตูุนหัวใจใหูเตูนแรงขึ้น ง. ความดันโลหิตและเลือดไหลเวียน

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ

22. สารเสพติดชนิ ดใด ที่ทางการแพทย์นิยมนำามาใชูเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ ปวดกรณี ท่ีคนไขู

เจ็บปวดไม่ไหว ก. ฝิ่ น

ค. มอร์ฟีน

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใชู

ข. กัญชา

ง. ทินเนอร์

23. ขั้นตอนการฟื้ นฟ้ผู้เขูารับการบำาบัดเป็ นการรักษาในดูานใด ก. ถอนพิษของสารเสพติด ข. ฟื้ นฟ้ร่างกายและจิตใจ

ค. ใหูคำาแนะนำาถึงวิธีการบำาบัดรักษา

ง. เป็ นการอบรมญาติของผู้เขูารับการบำาบัด

พฤติกรรมที่วัด ทักษะกระบวนการ

24. การเสพสารเสพติดชนิ ดใด มีโอกาสทำาใหูเกิดโรคโลหิตจางไดู ก. กัญชา

ค. แอลเอสดี

สาระที่ 3. สารและสมบัติ ของสาร มฐ. ว 3.1

ข. บาร์บิท้เรท ง. ทินเนอร์

เขูาใจสมบัติของสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสารกับ

โครงสรูางและแรงยึดเหนี่ ยวระหว่างอนุ ภาค มีกระบวนการสืบเสาะ

หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ส่ ือสารสิ่งที่เรียนรู้ นำาความรู้ไปใชูประโยชน์ หาความรู้

จงพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำาถามข้อ 1-3 (การวิเคราะห์) สมบัติของธาต่

ชนิ ดของ

ค.

นำาไฟฟ้ า

A



-



-

B

-



-



C



-

-



D

-



-

-

A C

26.ธาตุใดเป็ นกึ่งโลหะ ก. ค.

ผิวเป็ นมัน

ธาต่

25.ธาตุใดเป็ นโลหะ ก.

ไมุนำา

A C

ไฟฟ้ า

วาว

ข.

B

ข.

B

งD

ง.D

เปราะ

27.ธาตุใดมีสมบัติเช่นเดียวกับธาตุคาร์บอน ก. ค.

A

C และ D

ข.

B

ง.B และ D

28.ขูอใดเป็ นสมบัติของธาตุโลหะ(การวิเคราะห์) ก. นำาไฟฟู าไดู เหนี ยว มี จุดหลอมเหลวตำ่า

ข.

ไม่นำาไฟฟู าไดู เปราะ มี

จุดหลอมเหลวตำ่า

ค. นำาไฟฟู าไดู เหนี ยว มี จุดหลอมเหลวส้ง

ง.ไม่นำาไฟฟู าไดู เปราะ มี จุดหลอมเหลวส้ง

29.ธาตุชนิ ดโลหะชนิ ดใดที่มีสถานะเป็ นของแข็งและแก๊สตามลำาดับ (การ วิเคราะห์)

ก. ไอโอดีน , โบรมีน

ค. ไอโอดีน , ฟล้ออรีน

ข.

ฟ้ลออรีน ,คลอรีน

ง.โบรมีน , คลอรีน

จงพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำาถามข้อ 6

1. ธาตุ W แผ่รงั สีแอลฟาเพื่อลดพลังงานส่วนเกินในนิ วเคลียส

2. ธาตุ X เกิดปฏิกิรย ิ าเคมีกับธาตุ Y เกิดเป็ นสารประกอบ Z คาย

พลังงานความรูอน

3. ธาตุ M ใหูรงั สีคลื่นแม่เหล็กไฟฟู า เพื่อลดพลังงานส่วนเกินใน

นิ วเคลียส

4. ธาตุ A รวมกับธาตุ B เกิดเป็ นสารละลาย AB คายพลังงาน

ความรูอน

30.ขูอใดเป็ นธาตุกัมมันตรังสี (ความเขูาใจ และการวิเคราะห์) ก. ค.

1 และ 2 2 และ 4

ข.

3 และ 4

ง 1 และ 3

31.สารในขูอใดจัดเป็ นสารประกอบ (ความเขูาใจ และการวิเคราะห์) ก.

สาร A มีสาถานะเป็ นของแข็ง จุดหลอมเหลว 1,535 C และ

ข.

สาร B เป็ นของแข็งสีดำา จุดหลอมเหลว 2,030 C และไม่นำา

o

นำาไฟฟู า ไฟฟู า

o

ค.

สาร C เป็ นของเหลวใสไม่มีสีนำาไปแยกดูวยไฟฟู าไดูธาตุ X

กับธาตุ Y

ง.สาร D เป็ นของเหลวสีเงิน เป็ นมันวาว เหนี ยว จุดหลอมเหลว – 39 C o

32.สารขูอใดเป็ นธาตุท้ ังหมด ก.

แมกนี เซียม

คาร์บอนไดออกไซด์ เกลือแกง

ค.

อะล้มิเนี ยม หินป้น

ออกซิเจน

ข.

กรดไฮโดรคลอริก

โซดาไฟ แอมโมเนี ย

ง.กำามะถัน ทองแดง ไอโอดีน

33.สารประกอบในขูอใดเปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากแดงเป็ นนำ้าเงินทั้งหมด ก.

แอมโมเนี ย โซดาไฟ นำ้า

ค.

เกลือแกง หินป้น ยิปซัม ง.นำ้าขี้เถูา ดินประสิว ด่าง

ป้นใส

ข.

กรดเกลือ นำ้าสูมสายช้

กรดคาร์บอนิ ก ทับทิม

34.การใชูประโยชน์จากธาตุในขูอใดถ้กตูอง ก.

ทองแดง – ทำาถ่าน

ข.

ค.

คาร์บอน – ทำาไสูดินสอ

ง.อะล้มิเนี ยม – เคลือบผิว

ไฟฉาย ดำา

สังกะสี – แบตเตอรี่

โลหะกันสนิ ม

35.การใชูประโยชน์จากธาตุในขูอใดไมุถ้กตูอง ก.

แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ข.

แคลเซียมคลอไรด์ –

– นำ้าแข็งแหูง

ค.

โซเดียมไฮดรอกไซด์ –

ทำาสบ่้

ถนอมอาหาร

ง แอมโมเนี ย – ทำาปุ ุย

36.ธาตุชนิ ดใดเป็ นส่วนประกอบของเอนไซม์ ใชูย่อยโปรตีน ก.

ทองแดง

ค.

ข.

โครเมียม

สาระที่ ๓

ง.สังกะสี

สารและสมบัตข ิ องสาร

มาตรฐาน ว ๓.๒ สารละลาย

เหล็ก

เขูาใจหลักการและธรรมชาติของการเปลีย ่ นแปลง

สถานะของสาร

การเกิด

การเกิดปฏิกริ ย ิ า มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรูแ ้ ละจิตวิทยา ศาสตร์ สื่อสารสิง่ ทีเ่ รียนรู้

และนำาความรูไ้ ปใชูประโยชน์ ตัวชี้วัด

๑.ทดลองและอธิบายการเปลี่ยนแปลงสมบัติ มวล และพลังงานเมื่อสาร เกิดปฏิกิรย ิ าเคมี รวมทั้งอธิบายปั จจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิรย ิ าเคมี พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา ความเขูาใจ

37. ข้อใดกลุาวไมุถ้กต้องเกี่ยวกับปฏิกิรย ิ าเคมี

ก. ปฏิกิรย ิ าเคมี หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสาร ข.

สารใหม่ท่ีเกิดจากปฏิกิรย ิ าเคมี เรียกว่า ผลิตภัณฑ์

ค. เมื่อเกิดปฏิกิรย ิ าเคมีจะมีพลังงานเกิดขึ้นดูวย

ง. ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิกิรย ิ าเคมีไมุสามารถกลับไปเป็ นสารตั้งต้นได้

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา ความเขูาใจ

38. เมื่อมีปฏิกิรย ิ าเคมีเกิดขึ้น จะสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้หลาย

อยุาง ยกเว้นข้อใด

ก. เกิดฟองแก๊ส

ค. สารมีปริมาณเพิ่มขึ้น

ข. ง.

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา ความเขูาใจ

39. ข้อใดเป็ นวิธีที่ชุวยให้ปฏิกิรย ิ าเคมีเกิดได้เร็วขึ้น

เกิดตะกอน

สารเปลี่ยนสี

ก.

การเพิ่มอ่ณหภ้มิ

ข. การเติมตัวหน่วง

ค.

การใส่สารตั้งตูนปริมาณมาก

ง. ก า ร ท า สี ที่ ผิ ว

ปฏิกิรย ิ า

ของโลหะ

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา ความเขูาใจ 44. ข้อใดไมุเกิดปฏิกิรย ิ าเคมี ก. ค.

การเกิดสนิ ม

การจุดเตาไฟ

ข. ง.

การตัดไม้

การระเบิด

2. ทดลอง อธิบายและเขียนสมการเคมีของปฏิกิรย ิ าของสารต่าง ๆ และ นำาความรู้ไปใชูประโยชน์

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา ความเขูาใจ การนำาไปใชู

41. ในการปร่งอาหาร เพราะเหต่ใดจึงต้องหัน ่ อาหารเป็ นชิ้นเล็กๆ ก. ข.

ช่วยใหูสะดวกในการกิน เพื่อความสวยงาม

ค.

เพื่อเพิ่มพื้ นที่ในการเกิดปฏิกิรย ิ า ชุวยให้อาหารส่กเร็ว

ง.

เพื่อใหูน่ารับประทาน และไดูอาหารปริมาณมาก

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์ 42 ข้อใดเป็ นปฏิกิรย ิ าเคมี ก. การบดอาหาร

ค. การตักนำ้าใส่ถัง

อาหารในสิ่งมีชีวิต

ข. ง.

การกรองนำ้า

การเผาผลาญ

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์

43. เมื่อผสมสาร A กับสาร B ได้สาร C และแก๊ส D ข้อใดไมุถ้กต้อง ก.

มีปฏิกิรย ิ าเคมีเกิดขึ้น

ค.

สาร A และสาร B เป็ นสารตั้งตูน

ข. ง.

สาร A และสาร C เป็ นสารชนิ ดเดียวกัน สาร B และแก๊ส D เป็ นผลิตภัณฑ์

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์

44. สารตั้งต้นในการเกิดสนิ มของกระป๋ องบรรจ่อาหาร คือข้อใด ก.

อาหารกับนำ้า

ข.

อ า ห า ร กั บ

ค.

โลหะทำากระปุ องกับนำ้า

ง.

โ ล ห ะ ทำา

ออกซิเจน

กระป๋ องกับออกซิเจน

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์ 45.

การเผาขยะ สารตั้งต้นคือข้อใด

ก.

เปลวไฟและขยะ

ค.

ขยะและออกซิเจน

และออกซิเจน

ข. ขยะและอากาศ ง.

เปลวไฟ

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์ 46. จ า ก ข้ อ

9

ไ ด้ ส า ร ใ ด เ ป็ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์

ก.

ออกซิเจน

ค.

นำ้าและขี้เถูา



คาร์บอนไดออกไซด์

.



ขี้เถูาและออกซิเจน

.

๓. สืบคูนขูอม้ลและอภิปรายผลของสารเคมี ปฏิกิรย ิ าเคมีต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดลูอม

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์ 47.

ส า ร ที่ ทำา ใ ห้ ป ฏิ กิ ริ ย า เ กิ ด เ ร็ ว ขึ้ น

เ รี ย ก วุ า อ ะ ไ ร

ค.

ง. ตั ว ห น่ ว ง

ก.

การตั้งตูน

ตัวเรุงปฏิกิรย ิ า

ปฏิกิรย ิ า

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การวิเคราะห์ 48.

เมื่อสารตั้งต้น 2 ตัว ทำาปฏิกิรย ิ ากัน ดังนี้ A

B

+

C

D

สารผลิตภัณฑ์คือข้อใด ก. ข.

A

B

+

C

D

A

B

+

A

C

ข.

ผลิตภัณฑ์

ค. ง.

A

D

+

C

D

A

D

+

B

C

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา การนำาไปใชู 49.

ไฟ

ข้อใดเป็ นวิธีป้องกันการเกิดสนิ มของโลหะ ก.

ทาสีที่ผิวโลหะ

ข. นำา โลหะไปเผา

ค.

นำาโลหะไปลูางหนูา

ง. เ ก็ บ ไ วู ที่

อุณหภ้มิตำ่า

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 50.

ปฏิกิรย ิ าสะเทิน เป็ นปฏิกิรย ิ าระหวุางสารใด ก.

กรด + กรด



.

ค.

กรด + เบส



.

เบส + เบส กลาง + กลาง

4. สื บ คู น ขู อ ม้ ล และอธิ บ ายการใชู ส า ร เ ค มี อ ย่ า ง ถ้ ก ตู อ ง ป ล อ ด ภัวิยธี

ปู องกันและแกูไขอันตรายที่เกิดขึ้นจากการใชูสารเคมี พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 51.

เมื่อกรดรวมตัวพอดีกับเบสจะได้สารใดเป็ นผลิตภัณฑ์ ก.

คาร์บอนไดออกไซด์

ออกซิเจน



.

และนำ้า

ค.

เกลือ

ง.

เกลื อ

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ 52.

ข้อใดไมุใชุผลที่เกิดจากปฏิกิรย ิ าเคมี ก.

การเกิดฝนกรด

ค.

ปรากฏการณ์เรือนกระจก

ฝนไมุตกตามฤด้กาล เกิดควันจากรถยนต์

ข ง.

.

การ

พฤติกรรมที่วัด วิเคราะห์ 53.

การสลายตัวของโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต (NaHCO3) เมื่อได้

รับความร้อนจะได้แก๊สใด ก.

SO3

ค.

O2

CO2

ข.

H2 ง

.

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 54.

แก๊สใดทำาให้เกิดฝนกรด ก.

SO2 และ NO



.

ค.

SO3 และ NO



.

SO2 และ CO2 SO3 และ NO2

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 55.

แก๊สใดเป็ นสาเหต่หลักที่ทำาให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก

CO2 NO

ก.

CO



.

ค.

SO2



.

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 56.

โรงงานอ่ตสาหกรรมตุางๆ กุอให้เกิดสารมลพิษใดมากที่ส่ด ก.

ปรอท

ค.

แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์

ข. ง.

ควัน

แก๊สคาร์บอนมอนนอกไซด์

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 57

เมื่อนำาเอาทองเหลืองไปหลอมเหลวพลังจะถ้กด้ดเขูาไปเพื่ออะไร ก

เพิ่มพลังงานจลน์ในโมเลกุล



เกิดปฏิกิรย ิ าด้ดกลืนพลังงานความรูอน



ทำาให้ปริมาตรของของแข็งเพิ่มขึ้น



ลดพลังงานจลน์ท่ีอย่้ในระบบ

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใชู 58

ขูอปฏิบัติในการเลือกซื้ ออาหารกระปุ องคือขูอใด ก

ด้ปริมาณที่บรรจุเพื่อจะไดูมากๆ



กระปุ องตูองไม่บวม บุบ บู้บ้ ี



ด้ย่ีหูอที่คนนิ ยมซื้ อมารับประทาน



ด้ลักษณะสีของกระป๋ องที่บรรจ่

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 59

สารที่ใชูในบูานขูอใดเป็ นกรดทั้งหมด ก

นำ้าส้มสายช้ นำ้าสบุ้



นำ้าปลา ยาสีฟัน

ข ง

นำ้ายาลูางจาน ยาสีฟัน นำ้ายาลูางหูองนำ้า นำ้าสูมสายช้

พฤติกรรมที่วัด ความรู้ความจำา 60

สารละลายอิ่มตัว จะสามารถละลายไดูอีกเมื่อใด ก

ใหูความรูอนเพิ่มขึ้น



ใหูความเย็นเพิ่มขึ้น

ข ง

ให้ตัวละลายเพิ่มขึ้น ทำาใหูตกผลึก

มาตรฐาน ว 4.1

เขูาใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟู า แรงโนูมถ่วง

และแรงนิ วเคลียร์ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ นำาความรู้ไปใชูประโยชน์อย่างถ้กตูองและมีคุณธรรม ตัวชี้วัด

ว 4.1.1

ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรง

ในระนาบเดียวกันที่กระทำาต่อวัตถุ พฤติกรรมที่วัด

ความเขูาใจ

61. ขูอใดกล่าวถึงแรงลัพธ์ไดูถ้กตูอง ก.

แรงที่มีทิศทางต่อตูานการเคลื่อนที่ของวัตถุ

ข. แรงที่มีขนาดเท่ากันกระทำาต่อวัตถุแลูวทำาใหูวัตถุหมุน

ค. เดียวกัน

แรงที่เกิดขึ้นในเสูนเชือกขณะที่เชือกกำาลังแขวนวัตถุอย่้

ง.

แรงรวมของแรงยุอยที่กระทำาตุอวัตถ่เดียวกันในเวลา

พฤติกรรมที่วัด

ทักษะกระบวนการ

62 . เมื่อแรง 2 แรงมีขนาด 2 นิ วตันเท่ากัน กระทำาต่อรถในทิศทาง เดียวกันจะมีแรงลัพธ์เท่ากับเท่าไร ก. ข. ง.

0

ค.

2

พฤติกรรมที่วัด

4

นิ วตัน

นิ วตัน

4

นิ วตัน

นิ วตัน

ทักษะกระบวนการ

63. เมื่อแรง 2 แรงมีขนาดเท่า กระทำาต่อรถในทิศทางตรงกันขูาม จะ มีแรงลัพธ์เท่ากับเท่าไร ข.

ค. ง.

พฤติกรรมที่วัด 64.

ก.

0

นิ วตัน

2 นิ วตัน

4 นิ วตัน

4

นิ วตัน

ทักษะกระบวนการ

เมื่อแรง 2 แรงมีขนาด 5 นิ วตัน และ 2 นิ วตัน กระทำาต่อรถ

ในทิศทางตรงกันขูามกันจะมีแรงลัพธ์เท่ากับเท่าไร ก. ข.

2

นิ วตัน

3 นิ วตัน

ค. ง.

มาตรฐาน ว 4.1

4 นิ วตัน

5

นิ วตัน

เขูาใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟู า แรงโนูมถ่วง

และแรงนิ วเคลียร์ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ นำาความรู้ไปใชูประโยชน์อย่างถ้กตูองและมีคุณธรรม ตัวชี้วัด

ว 4.1.2

อธิบายแรงลัพธ์ท่ีกระทำาต่อวัตถุท่ีหยุดนิ่ งหรือวัตถุ

เคลื่อนที่ดูวยความเร็วคงตัว พฤติกรรมที่วัด

มาตรฐาน ว 4.1

ความเขูาใจ

เขูาใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟู า แรงโนูมถ่วง

และแรงนิ วเคลียร์ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ นำาความรู้ไปใชูประโยชน์อย่างถ้กตูองและมีคุณธรรม ตัวชี้วัด

ว 4.1.2

อธิบายแรงลัพธ์ท่ีกระทำาต่อวัตถุท่ีหยุดนิ่ งหรือวัตถุ

เคลื่อนที่ดูวยความเร็วคงตัว

65. ถูาตูองการใหูกล่องเคลื่อนที่ไปทางซูาย จะตูองออกแรงตามขูอใด ก.

พฤติกรรมที่วัด

ข.

ความเขูาใจ

66. จากร้ปทิศทางของแรงลัพธ์จะเป็ นอย่างไร

ข. ไปทางขวา

ก. ไปทางซูาย

ค.

ง.

ตรงกันขูาม

ค. มีค่าเท่ากันศ้นย์

พฤติกรรมที่วัด

ง. ไปทิศทาง

ความเขูาใจ

67. ขูอใดแสดงค่าของแรงลัพธ์เท่ากับศ้นย์ ก.

ข.

พฤติกรรมที่วัด ความเขูาใจ

ค.

ง.

68. เมื่อแรง 2 แรงมีขนาด 10 นิ วตัน และ 5 นิ วตัน กระทำาต่อรถ ในทิศทางตรงกันขูามกัน รถจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก.

รถจะไม่เคลื่อนที่

ข.

รถจะเคลื่อนที่ไปตามทิศทางของแรงทั้งสอง

ง.

รถจะเคลื่อนที่ไปตามทิศทางของแรง 5 นิ วตัน

ค.

รถจะเคลื่อนที่ไปตามทิศทางของแรง 10 นิ วตัน

มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวุางพลังงานกับการดำารงชีวิต การีเปลี่ยนร้ปพลังงานปฏิสัมพันธ์

ระหวุางสารและพลังงาน

ผลของการใช้พลังงานตุอชีวิตและสิ่งแวดล้อมมีกระบวนการ นำาความร้้ไปใช้ประโยชน์

สืบเสาะหาความร้้ สื่อสารสิ่งที่เรียนร้้และ

มาตรฐาน ว 5.1 ม 2/1

ทดลองและอธิบายการสะทูอนของแสงและนำา

มาตรฐาน ว 5.1 ม 2/2

อธิบายผลความสว่างที่มีต่อมนุ ษย์และสิ่งมี

ความรู้ไปใชูประโยชน์ ชีวิตอื่น ๆ

มาตรฐาน ว 5.1 ม 2/3

ทดลองและอธิบายการด้ดกลืนแสงสี

มองเห็นสีของวัตถุและนำาความรู้ไปใชู

การ

ประโยชน์

69.เมื่อแสงอาทิตย์ผุานปริซึมจะกระจายออกเป็ นสเปกตรัมสีตุาง ๆ ดังนี้

1. เป็ นเสูนสีอย่้แยกห่างจากกัน

2. เป็ นแถบสีอย่้แยกห่างจากกัน

3. เป็ นแถบสีตุอเนื่ องกัน มีขอบเขตของแตุละสีแนุนอน

4. เป็ นแถบสีเหลื่อมซูอนกัน ไม่อาจบอกขอบเขตของสีไดูอย่าง ชัดเจน

70. ข้อใดทำาให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกวุามิราจ ก. แสงเดินทางผ่านละอองนำ้า

ข. แสงเดินทางผ่านบริเวณที่หนาวจัด

ค. แสงเดินทางผ่านบริเวณที่มีความเขูมของแสงมาก ง. แสงเดินทางผ่านบริเวณที่มีอุณหภ้มิแตกต่างกัน

71. เพราะเหต่ใดเราจึงมองเห็นสระนำ้าหรือวัตถ่ทอ ี่ ยุ้ในนำ้าตื้ นกวุาที่เป็ น จริง



มุมหักเห

เพราะ แสงจากกูนสระเกิดการสะทูอนกลับหมด

ข เพราะ การหักเหของแสงที่มีมุมตกกระทบเล็กกว่า

ค เพราะ การหักเหของแสงที่มีมุมตกกระทบโตกว่ามุมหักเห

ง เพราะ แสงจากกูนสระเกิดการหักเห ทำาใหูมุมตกกระทบเท่ากับ

มุมสะทูอน

72. ในกรณีใดที่ทำาให้ม่มตกกระทบและม่มหักเหมีคุาเทุากับศ้นย์ ก เมื่อเรามองวัตถุในนำ้าในแนวเฉียง

ข เมื่อลำาแสงจากแท่งพลาสติกออกส่้อากาศเป็ นมุมปู าน

ค เมื่อลำาแสงส่องผ่านจากอากาศตั้งฉากกับแท่งพลาสติก 73.

ง เมื่อลำาแสงส่องผ่านอากาศไปส่้แท่งพลาสติกเป็ นมุมแหลม

ข้อตุอไปนี้ ข้อใดกลุาวถ้กต้อง

ก วัตถุท่ีมีผิวขรุขระ มันวาว จะเกิดการสะทูอนแสงไดูดี

ข หลักการสะทูอนกลับหมดของแสงนำาไปใชูในการสื่อสารทาง

โทรศัพท์

ค ลำาแสงตกกระทบ ลำาแสงสะทูอนอย่้บนแนวระนาบเดียวกันจะ

ทำาใหูเกิดมุมฉาก

ง มุมตกกระทบที่ทำาใหูเกิดมุมหักเหมีค่า 90 องศา จะไม่เกิดการ

สะทูอนกลับหมด

74. แสงที่เคลื่อนที่จากตัวกลางที่มีความหนาแนุนน้อยกวุาไปสุ้ตัวกลางที่ มีความหนาแนุนมากกวุา รังสีของแสงจะหักเหอยุางไร ก ไม่หักเห

ข ยังสรุปไม่ไดู

ค เบนเขูาหาเสูนปกติ

ง เบนออกจากเสูนปกติ

75..การที่เรามองเห็นวัตถ่ตุาง ๆ ได้เป็ นเพราะอะไร

ก แสงทะลุผ่านวัตถุเขูาตา

ข แสงสะทูอนเขูาส่้นัยน์ตา

ค แสงจากวัตถุทะลุผ่านนั ยน์ตา

ง แสงสะทูอนหรือทะลุผ่านวัตถุเขูานั ยน์ตา

76. ถ้านำาพลอยที่มีสีน้ ำาเงินเข้าไปภายในห้องที่ฉายด้วยแสงสีแดง เราจะ มองเห็นพลอยเป็ นสีอะไร ก สีเขียว ค สีฟูา

ข สีดำา

ง สีเหลือง

77. ในการแสดงละครเวทีถ้าต้องการเปลี่ยนสีเสื้ อผ้าของผ้้แสดงจากสีขาว ไปเป็ นสีแดงทันที มุวง

ควร จะฉายสปอตไลต์แสงสีใดไปซ้อนทับกับสปอตไลต์แสงสีแดง ก แสงสีเขียว ข แสงสีสูม ค แสงสีเหลือง

ง แสงสีน้ ำาเงิน

78 การผสมแสงสีในข้อใดเมื่อนำามาผสมบนฉากสีขาวแล้วไมุเกิดเป็ นแสง สีขาว

ก แสงสีแดง กับแสงสีน้ ำาเงิน

ข แสงสีน้ ำาเงิน กับแสงสีเหลือง

ค แสงสีเขียว กับแสงสีแดงม่วง

ง แสงสีน้ ำาเงินเขียว กับแสงสีแดง

79. คนสายตายาวมีสาเหต่เนื่ องมาจากภาพของวัตถ่ตกอยุ้ในระยะใด มีวิธี แก้ไขตามข้อใด

ก ตกอย่้หนูาเรตินา แกูไขโดยใชูเลนส์น้นเขูาช่วย

ข ตกอย่้บนโฟกัส แกูไขโดยใชูเลนส์ไบโฟคัลเขูาช่วย

ค ตกอย่้หลังเรตินาออกไป แกูไขโดยใชูเลนส์น้นเขูาช่วย

ง ตกอย่้ตรงเรตินาพอดี แกูไขโดยใชูเลนส์กาบกลูวยเขูาช่วย

สาระที่ 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก

มาตรฐาน ว 6.1 เข้าใจกระบวนการตุาง ๆ ทีเ่ กิดขึ้นบนผิวโลกและ ภายในโลก ความสัมพันธ์ของกระบวนการตุาง ๆ ที่มีผลตุอการ

เปลี่ยนแปลงภ้มิอากาศ ภ้มิประเทศ และสัณฐานของโลก มีกระบวนการ

สืบเสาะหาความร้้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนร้้และนำาความร้้ไปใช้ ประโยชน์

ตัวชี้วัดที่ 1 สำารวจทดลองและอธิบายลักษณะของชั้นหน้าตัดดิน สมบัติ ของดิน และกระบวนการเกิดดิน พฤติกรรมที่วัด วิเคราะห์

80. ดินเกิดจากการสลายตัวของสิ่งใดต่อไปนี้ 1) จุลินทรีย์

2) หินและแร่

3) พืชและสัตว์

ขูอที่ถ้กตูอง คือ

ก ขูอ 1 และ 2

ข ขูอ 2 และ 3 ค ขูอ 1 และ 3

ง ขูอ 1, 2 และ 3

พฤติกรรมที่วัด ความเข้าใจ

81. สีของดินบอกสิ่งใดแก่เราไดูบูาง ก อายุของดิน

ข การส้ญเสียอินทรีย์สาร ค วัตถุตูนกำาเนิ ดดิน ง ถ้กทุกขูอ

ตัวชี้วัดที่ 2 สำารวจวิเคราะห์และอธิบายการใช้ประโยชน์และการปรับปร่ง ค้ณภาพของดิน

พฤติกรรมที่วัด ความเข้าใจ

82. การปรับสภาพดินที่เป็ นกรดจัดมีวิธีทำาอย่างไร ก เติมผงกำามะถัน

ข ทดนำ้าเขูาแลูวระบายทิ้ง ค

ไถพรวนดินอย่้เสมอ

ง เติมป้นขาวหรือมาร์ล

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใช้

83. การทดนำ้าเขูาท่วมพื้ นที่ท้ ิงไวูระยะหนึ่ งแลูวจึงระบายทิ้งใชูในกรณี ท่ีดิน มีสภาพอย่างไร

ก เป็ นกรดจัด ข เป็ นเบสจัด ค เป็ นกลาง ง ขาดฮิวมัส

ตัวชี้วัดที่ 3 ทดลองเลียนแบบเพื่ออธิบายกระบวนการเกิดและลักษณะ องค์ประกอบของหิน

พฤติกรรมที่วัด ความจำา

84. ภ้เขาหินตะกอนริมถนนมิตรภาพเกิดขึ้นไดูจาก 1) บริเวณนี้ เดิมอย่้ใตูน้ ำา

2) เกิดการทับถมของตะกอน

3) ตะกอนแต่ละชั้นกลายเป็ นหิน 4) เปลือกโลกโก่งตัวขึ้น ขูอที่ถ้กตูองคือ ก ขูอ 1 ,2 ข ขูอ 2,3

ค ขูอ 1,4

ง ขูอ 1,2,3 และ 4

พฤติกรรมที่วัด วิเคราะห์

85. ซากดึกดำาบรรพ์หรือฟอสซิลอาจพบไดูในหินชนิ ดใดไดูมากที่สุด ก หินอัคนี

ข หินตะกอน ค หินแปร

ง หินหนื ด ตัวชี้วัดที่ 4. ทดสอบและสังเกตองค์ประกอบและสมบัติของหินเพื่อ จำาแนกประเภทของหินและนำาความร้้ไปใช้ประโยชน์

พฤติกรรมที่วัด ความจำา

86. กำาแพงที่มีลักษณะสีน้ ำาตาลแดงเป็ นเม็ดลูอมรอบดูวยสีแดงกระจายอย่้ ทัว่ ไปเนื้ อหยาบแข็งขรุขระเม็ดกรวดเกาะกันอย่้ห่างๆ ลักษณะนี้ น่าจะทำา มาจากหินชนิ ดใด

ก หินกรวดมน ข หินศิลาแลง ค หินป้น

ง อิฐแดง

พฤติกรรมที่วัด นำาไปใช้

87. ครกหินควรทำามาจากหินชนิ ดใดถึงจะมีความแข็งแรงทนทาน ก หินไนส์

ข หินทราย ค หินป้น

ง หินควอร์ตไซต์

ตัวชี้วัดที่ 5 . ตรวจสอบและอธิบายลักษณะทางกายภาพของแรุและการนำา ไปใช้ประโยชน์

พฤติกรรมที่วัด ความร้้ความจำา

88. แร่เชื้ อเพลิงของไทยที่ขุดขึ้นมาใชูนูอยที่สุดไดูแก่ขูอใด ก ก๊าซธรรมชาติ ข ถ่านหิน

ค หินนำ้ามัน

ง นำ้ามันปิ โตรเลียม

พฤติกรรมที่วัด ความเข้าใจ

89. การใชูทรัพยากรแร่อย่างรู้คุณค่าควรมีแนวทางอย่างไร

ก ใชูเทคโนโลยีการสำารวจและการขุดที่มีประสิทธิภาพ

ข สรูางสรรค์ผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณค่าแทนการส่งออกวัตถุดิบ

ค นำากากแร่ไปใชูและวัสดุเหลือใชูกลับส่้กระบวนการผลิต ง ถ้กทุกขูอ

ตัวชี้วัดที่ 6. สืบค้นและอธิบายกระบวนการเกิด ลักษณะและสมบัติของ ปิ โตรเลียมถุานหิน

นำ้ามัน และการนำาไปใช้ประโยชน์

พฤติกรรมที่วัด ความร้้ความจำา การนำาไปใช้

90. A นำ้ามันเบนซิน, B นำ้ามันดีเซล อยุางไหนมีจ่ดเดือดส้งกวุาและ อยุางไหนจะกลัน ่ ที่ระดับส้งกวุาในหอ กลัน ่ ให้ตอบตามลำาดับ ก

A B



B A



B B



A A

พฤติกรรมที่วัด การวิเคราะห์

91.หินที่เก็บปิ โตรเลียมมักเป็ นหินอะไร ก หินแปร

ข หินอัคนี

ค หินนำ้ามัน

ง หินตะกอน

ตัวชี้วัดที่ 7. สำารวจและอธิบายลักษณะแหลุงนำ้าธรรมชาติการใช้ประโยชน์ และการอน่รักษ์แหลุงนำ้าในท้องถิ่น

พฤติกรรมที่วัด ความเข้าใจ การนำาไปใช้

92. วิธีใดที่ดีที่ส่ดในการป้ องกันปั ญหาเรื่องนำ้าเสีย ก ควบคุมจำานวนประชากรไม่ใหูเพิ่มขึ้น

ข ใชูเทคโนโลยีสมัยใหม่เขูามาช่วยแกูไข ค ออกกฎหมายควบคุมอย่างเคร่งครัด

ง ใหูความรู้แก่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวขูองกับผลเสียของนำ้าเสีย และ

กระตูุนใหูเกิดความร่วมมือในการแกูปัญหา พฤติกรรมที่วัด การวิเคราะห์

93. ถ้านำ้าพัดพาตะกอนมาตามห่บเขาไปด้วยความเร็วส้ง เมื่อไหลลงสุ้ ที่ราบจะทำาให้เกิดสิ่งใดขึ้น ก หัวหาดโคูง

ข เนิ นตะกอนนำ้าพาร้ปพัด ค ดินดอนสามเหลี่ยม ง แม่น้ ำาสายย่อย

ตัวชี้วัดที่ 8. ทดลองและอธิบายการเกิดแหลุงนำ้าบนดินและแหลุงนำ้า ใต้ดิน

พฤติกรรมที่วัด ความร้้ความจำาความเข้าใจ

94. แหลุงนำ้าที่เรียกวุานำ้าบาดาลนั้นมาจากที่ใด ก บ่อเจาะลงใตูดินลึกมาก

ข นำ้าที่อย่้ในระดับชั้นที่เป็ นหิน ค นำ้าที่อย่้ตำ่ากว่าระดับนำ้าใตูดิน

ง นำ้าฝนที่ไหลไปรวมอย่้ในแอ่งหิน

พฤติกรรมที่วัด ความร้้ความจำาความเข้าใจ

95 เพราะเหต่ใดนำ้าบาดาลจึงเป็ นนำ้าที่สะอาดกวุานำ้าในดิน ก ใสไม่ส่ิงเจือปน

ข ไหลผ่านชั้นดินทราย

ค อย่้ตำ่ากว่าระดับนำ้าในดิน

ง ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามฤด้กาล

ตัวชี้วัดที่ 9. ทดลองเลียนแบบและอธิบายการผ่พังอยุ้กับที่ การกรุอน การพัดพา การทับถม การตกผลึก และผลของกระบวนการดังกลุาว พฤติกรรมที่วัด ความร้้ความจำา

96. มน่ษย์สามารถชุวยชะลอการกรุอนของเปลือกโลกได้โดยวิธีใด ก ไม่ตัดไมูทำาลายป่ า

ข ไม่สรูางอาคารใหญ่ๆ ค ไม่ขุดเจาะบาดาล

ง ไม่สรูางเขื่อนและอ่างเก็บนำ้า

พฤติกรรมที่วัด ความร้้ความจำา

97. สิ่งที่ชุวยลดการกัดเซาะดินตามริมฝั ่ งแมุน้ ำาได้ดีตามธรรมชาติคืออะไร ก เรือที่จอดริมฝั ่ ง

ข บูานที่ปล้กริมฝั ่ ง

ค ตูนหญูาตูนไมูรม ิ ทาง

ง เขื่อนคอนกรีตริมฝั ่ ง

ตัวชี้วัดที่ 10. สืบคูนสรูางแบบจำาลองและอธิบายโครงสรูางและองค์ ประกอบของโลก

พฤติกรรมที่วัด การสังเคราะห์

98 การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกในข้อใดที่ไมุมีอิทธิพลจากภายใต้ผิว โลก

ก การกร่อน

ข การเกิดภ้เขา ค แผ่นดินไหว

ง การระเบิดของภ้เขาไฟ

พฤติกรรมที่วัด การนำาไปใช้

99 บริเวณที่อยุ้หุางจากรอยตุอของแผุนเปลือกโลก เชุน ประเทศไทยมี โอกาสเกิดภ้เขาไฟระเบิดหรือไมุ เพราะเหต่ใด

ก มีโอกาส เพราะแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ตลอดเวลา

ข ไม่มีโอกาส เพราะอย่ห ้ ่างจากบริเวณที่มีโอกาสเกิดภ้เขาไฟ

ค ไม่มีโอกาสเพราะ ประเทศไทยไม่มีรอยแยกของชั้นหินอย่้เลย ไดู

ง มีโอกาสเพราะ หินหนื ดมีโอกาสดันขึ้นมาตามรอยแยกของชั้นหิน

พฤติกรรมที่วัด การวิเคราะห์

100. ข้อความใดกลุาวถ้กต้อง

ก บริเวณที่มีฝนตกนูอยจะเกิดการกร่อนโดยลมมากกว่าบริเวณที่มี

ฝนตกมาก

ข เมื่อป่ าไมูถ้กทำาลายจะทำาใหูผิวหนูาดินกร่อนโดยลมมากกว่ากร่อน

โดยกระแสนำ้า

ค บริเวณที่มีฝนตกนูอยจะเกิดการกร่อนโดยปฏิกิรย ิ าเคมีมากว่า

บริเวณที่มีฝนตกมาก

ง บริเวณภ้เขาส้งที่ตูนไมูถ้กตัดจนโล่งเตียนจะเกิดการกร่อนโดยลม

มากกว่าบริเวณทะเลทราย

………………………………………………………………………

……………………………

เฉลยขูอสอบวิทยาศาสตร์ช้ ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เฉลย ขูอ









8,11,14,19

1,2,6,9,18

10,15,16,21,2 3,5,7,12,13,17,

49,54,59

55,60,64,66

28,29,31,34,3 24,27,30,32,3

25,33,39 63,65,78

83,96,98,10 0

23,35,46,52 71,73,76,85 86,90,94,95

2,26

20

8

6,37,40

6

1,57,58

5

1,82,87

41,45,50,53,5 42,43,44,48,5 68,69,72,74,7 61,70,77,80,8 79,91,93,97

89,92,99

View more...

Comments

Copyright ©2017 KUPDF Inc.
SUPPORT KUPDF