เอกสารประกอบการเรื่องประโยค ม.3

July 8, 2017 | Author: Chonticha Muangsrijan | Category: N/A
Share Embed Donate


Short Description

ประโยค...

Description

เอกสารประกอบการเรี ยนรายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๓๑๐๒ เรื่ อง ประโยค ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๓

ชื่อ...................................................................................ชั้น.................................เลขที.่ ......................................

ประโยค ประโยค คือ กลุ่มคำที่รวมเข้ำกันอย่ำงมีระเบียบ มีเนื้อควำมสมบูรณ์และชัดเจน ส่วนประกอบของประโยค แบ่งเป็น ๒ ภำค คือ ๑. ภำคประธำน  บทประธำน และบทขยำยประธำน ๒. ภำคแสดง  บทกริยำ บทขยำยกริยำ บทกรรม และบทขยำยกรรม ตัวอย่าง

ภาคประธาน ประโยค ๑. นกบิน ๒. ฝนตกหนัก ๓.นักเรียนหลำยคนแต่ง โคลงสีส่ ุภำพเก่งมำก

ประธาน นก ฝน นักเรียน

ขยายประธาน หลำยคน

จำไว้ว่ำจะเป็นประโยคก็ ต่อเมื่อมีภำคประธำน และภำคแสดง (อำจมีกรรม ส่วนขยำยกรรม ส่วน ขยำยกริยำหรือไม่ก็ได้]

ภาคแสดง กริยา บิน ตก แต่ง

ขยายกริยา หนัก เก่งมำก

กรรม โคลง

ขยายกรรม สี่สภุ ำพ

แบบฝึกหัดที่ ๑ พิจารณาว่าข้อความต่อไปนี้เป็นประโยคหรือกลุ่มคา ๑. ต้นไม้โค่น...................................................................... ๕. แม่ไม้มวยไทย...................................................................... ๒. วนอุทยำนแห่งชำติเขำคิชฌกูฏ.................................... ๖. กรุณำเซ็นชื่อที่มุมล่ำงด้ำนขวำด้วย............................................ ๓. สองมือแม่นี้ที่สร้ำงโลก................................................. ๗. เกิดระเบิดที่ที่ทำกำรไปรษณียส์ ำมเสนเมื่อเร็วๆ นี้................... ๔. บุหรี่เป็นอันตรำยต่อสุขภำพ........................................... ๘. กระเป๋ำหนังสือของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษำปีที่ ๓................... ๑. ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) การจาแนกประโยคในภาษาไทย แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท ๒. ประโยคความรวม (อเนกรรถประโยค) ๓. ประโยคความซ้อน (สังกรประโยค) ๑. ประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) คือ ประโยคที่มีใจควำมสำคัญอันสมบูรณ์เพียงใจควำมเดียวเท่ำนั้น เช่น - คนไทยมีอัธยำศัยดี - ฉันไปซื้อผ้ำที่บำงลำพู แม่รักลูกทุกคน พ่อเดิน ประโยคควำมเดียวจะมีบทกริยำ - ต้นไม้มีควำมสำคัญต่อชีวิต สำคัญเพียงแค่บทเดียวเท่ำนั้น ประโยคควำมเดียวจำแนกตำมลักษณะต่ำง ๆ ได้ ๓ ประเภทคือ กริยำไม่มีกรรม เช่น ฝนตก, ดอกไม้หอม จาแนกตามบทกริยา กริยำมีกรรม เช่น รัฐสภำออกกฎหมำย, ฉันกินข้ำว, ฉันให้ดินสอกับน้อง กริยำที่ต้องอำศัยส่วนเติมเต็ม เช่น นำยสีเป็นพ่อค้ำ, เธอคล้ำยฉัน (มักใช้คำกริยำว่ำ เป็น เหมือน คล้ำย คือ ดุจ ประหนึง่ แปลว่ำ เป็นต้น) กริยำช่วย เช่น พ่อกาลังมำ น้องกินข้ำวแล้ว ฉันต้องไปกับแม่พรุ่งนี้ เริ่มด้วยผู้กระทำ (ขึ้นด้วยประธำน) เช่น ก้อยเขียนหนังสือสวย, เก่งแตะฟุตบอล จาแนกตามลาดับองค์ประกอบ เริ่มด้วยผู้ถูกกระทำ (ขึ้นด้วยกรรม) เช่น เจี๊ยบถูกแม่ตี, โรงเรียนสร้ำงเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ หนังสือเล่มนี้ฉันอ่ำนหลำยรอบแล้ว เริ่มด้วยบทกริยำ (ขึ้นต้นด้วยกริยำ) เช่น เกิดกำรปฏิวัติในประเทศไทย, กินอำหำรจิบจิบทำให้เป็นโรคอ้วน

๒ ประโยคบอกเล่ำ เช่น แดงทำแก้วแตก จาแนกตามความมุ่งหมาย ประโยคปฏิเสธ เช่น แดงไม่ใช่คนทำแก้วตก ของผู้ส่งสาร ประโยคคำถำม เช่น แดงทำแก้วแตกใช่หรือไม่ ประโยคคำสั่ง และขอร้อง เช่น โปรดถอดรองเท้ำ ห้ำมเดินลัดสนำม ๒. ประโยคความรวม (อเนกรรถประโยค) คือ ประโยคที่มีใจควำมสำคัญตั้งแต่ ๒ ประโยคขึ้นไป เป็นกำรนำเอำประโยคควำมเดียว ตั้งแต่ ๒ ประโยคขึ้นไปมำรวมกัน (เมื่อแยกประโยคออกจะมีเนือ้ ความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ได้ไปขยำยส่วนใดส่วนหนึ่งของประโยค) โดยมีสันธำนเชื่อม มีเนื้อควำมแตกต่ำงกันไป ดังนี้ ๑. มีเนื้อควำมคล้อยตำมกัน  มักใช้สันธำน กับ, และ, ทั้ง...และ, ครั้ง...จึง, เมื่อ...ก็, แล้ว...ก็ เมื่ออันยำเดินทำงจำกบ้ำนเกิดมำแล้ว เธอก็ไม่เดินทำงกลับบ้ำนอีก ทั้งโรงเรียนและบ้ำนมีควำมสำคัญในกำรสร้ำงเยำวชน กวำงซูและฮำฮำเป็นคนทรยศ ทั้งกุ๊กไก่และกุ๊กกิ๊กเป็นนักเรียนชัน้ ม.๓/๖ ๒. มีเนื้อควำมขัดแย้งกัน  มักใช้สันธำน แต่, ส่วน, ทว่า, กว่า...ก็, ถึง...ก็, แม้ว่า...แต่...ก็ สำลี่อยำกเป็นหมอแต่สำลี่เรียนไม่เก่ง กว่าตำรวจจะรูต้ ัวคนร้ำย ประชำชนก็คงได้รับควำมเดือดร้อน ลำยองอยำกเป็นคนดีแต่ลำยองก็ดื่มเหล้ำทุกวัน ๓. มีเนื้อควำมให้เลือก  มักใช้สันธำน หรือ , หรือไม่ก็, ไม่...ก็, มิฉะนั้น...ก็ ไม่เขำก็ฉันจะต้องไปจำกที่นี่ เน็กซ์จะต้องเรียนแพทย์หรือไม่ก็วศิ วะ หัวหน้ำชั้นหรือไม่ก็รองหัวหน้ำชั้นต้องไปพบครูที่ห้องพักครู ๔. มีเนื้อควำมแสดงเงื่อนไข  มักใช้สันธำน ถ้า...ก็, หาก...ก็ ถ้าฝนไม่ตกเรำก็จะออกไปเดินเล่นกัน หากเขำดีต่อฉันอย่ำงนีต้ ั้งแต่แรก ฉันก็ คงไม่ทิ้งเขำ ๕. มีเนื้อควำมเป็นเหตุเป็นผลกัน  มักใช้สันธำน จึง, เพราะ, เพราะฉะนั้น, ดังนั้น เพราะเขำมำที่บ้ำน เธอจึงออกจำกบ้ำน มำดำมพุชชี่ไม่ได้ทำกำรบ้ำนดังนัน้ มำดำมพุชชี่จึงไม่ไปโรงเรียน ข้อสังเกต ในประโยคที่ใช้สันธำน “เพรำะ” ถ้ำประโยคที่เป็นเหตุขึ้นก่อน จะเป็นประโยคควำมรวมที่มีเนื้อควำมแสดงเงื่อนไขที่ เป็นเหตุเป็นผลกัน แต่หำกว่ำประโยคที่เป็นผลขึ้นก่อนแล้วตำมด้วยประโยคที่เป็นเหตุจะเป็นประโยค ควำมซ้อน ให้นักเรียนสังเกตประโยค ต่อไปนี้ เพรำะเขำมำที่บ้ำน เธอจึงออกจำกบ้ำน ประโยควำมรวม เธอออกจำกบ้ำน เพรำะเขำมำที่บ้ำน ประโยควำมซ้อน จะเห็นว่ำประโยคหลักคือ เธอออกจำกบ้ำน ประโยคย่อย คือ เขำมำที่บ้ำน ซึ่งไปขยำยกริยำของประโยคหลัก คือ ออก (ออกเพรำะเขำมำนั่นเอง)

แบบฝึกหัดที่ ๒ ให้นักเรียนพิจารณาประโยคความรวมต่อไปนี้ว่าเป็นแบบใด ๑. ทั้งพ่อและแม่ไปสัมมนำที่เชียงใหม่............................................................................................................................................. ๒. เกียรติยศเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดขึน้ หรือเป็นค่ำนิยมของสังคม.......................................................................................................... ๓. เพรำะฝนตกหนักเธอจึงออกจำกบ้ำนไม่ได้................................................................................................................................. ๔. ไม่พ่อก็คณ ุ ตำต้องไปนิมนต์พระที่วัด.......................................................................................................................................... ๕. กว่ำรถดับเพลิงจะมำถึงไฟก็มอดเสียแล้ว................................................................................................................................... ๖. พอเสียงสัญญำณดังขึ้นนักเรียนก็ออกมำจำกห้องสอบ...............................................................................................................

๓ ๗. เพรำะน้ำมันรำคำสูงขึ้น สินค้ำจึงขึ้นรำคำ.................................................................................................................................. ๘. มนุษย์เรำต้องทำมำหำกินไม่เช่นนั้นก็ต้องอดตำย....................................................................................................................... ๙. เขำเป็นคนดี คนจึงสงสำรเขำ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ๑๐. ถึงเขำเป็นนักเลงโต ฉันก็ไม่กลัวเขำ........................................ ..................................................................................................

๓. ประโยคความซ้อน (สังกรประโยค) คือ ประโยคซึ่งประกอบด้วยประโยคหลัก (มุขยประโยค) และประโยคย่อย (อนุประโยค) ซึ่ง เป็นประโยคควำมเดียวซ้อนอยู่ อำจทำหน้ำที่ขยายส่วนใดส่วนหนึง่ ในประโยค อนุประโยคมี ๓ ชนิด คือ ๑. นามานุประโยค คือ อนุประโยคที่ทำหน้ำที่เป็นประธาน หรือกรรมของประโยค ข้อสังเกต มักเชื่อมด้วย ว่า, ให้ หรืออำจไม่มีตัวเชื่อมก็ได้ ตัวอย่าง ฉันไม่ชอบให้เขาทาผิด ** อนุประโยค คือ เขำทำผิด จะเห็นว่ำทำหน้ำที่เป็นกรรมของประโยค เขำพูดว่าเขาชอบเรียนภาษาไทย **อนุประโยค คือ เขำชอบเรียนภำษำไทย จะเห็นว่ำทำหน้ำที่เป็น กรรม คนทาดีย่อมได้รับผลดี ** อนุประโยค คือ คนทำดี จะเห็นว่ำทำหน้ำที่เป็นประธานของประโยค ๒. คุณานุประโยค คือ อนุประโยคที่ทำหน้ำที่เหมือนคำวิเศษณ์ขยายคานามหรือคาสรรพนาม ข้อสังเกต มักเชื่อมด้วย ที่, ซึ่ง, อัน ตัวอย่าง ผู้หญิงทีส่ วมกางเกงยีนส์สีฟ้าเป็นพีส่ ำวของฉัน ** อนุประโยค คือ (ผู้หญิง) ที่สวมกำงเกงยีนส์สีฟ้ำ ไปขยำยคำว่ำ “ผู้หญิง” ซึ่งเป็นประธำนในประโยคหลัก ฉะนั้นอนุประโยคตัวอย่ำงนี้จึงทำหน้ำที่ขยำยประธำนของประโยค เขำซึ่งเป็นนักสืบชอบมำที่นเี่ สมอ ** อนุประโยค คือ (เขำ) เป็นนักสืบ ไปขยำยคำว่ำ “เขำ” ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น คนที่ขยันเรียนย่อมสอบได้ดี ** อนุประโยค คือ (คน) ขยันเรียน หนังสือที่แทมินให้ฉันยืมเป็นหนังสือที่ดีมำก ** อนุประโยค คือ (หนังสือ) แทมินให้ฉันยืม ยกเว้น ที,่ ซึง่ , อัน ทีไ่ ม่ได้ใช้สำหรับเชือ่ มควำม เช่น สุนทรภูไ่ ปนมัสกำรพระพุทธบำททีส่ ระบุร,ี คนเรำควรรักษำไว้ซึ่งควำมสัตย์

๓. วิเศษณานุประโยค คือ อนุประโยคที่ทำหน้ำที่เหมือนคำวิเศษณ์ขยายคากริยาหรือคาวิเศษณ์ ข้อสังเกต คำที่ใช้เชื่อมมีหลำยคำ เช่น ว่ำ ให้ ที่ ซึ่ง อัน เมื่อ ตั้งแต่ จนกระทั่ง อย่ำง เมื่อ กว่ำ เช่น เพื่อ เพรำะ ระหว่ำงที่ รำว เป็นต้น ตัวอย่าง เขำทำดีทใี่ คร ๆ ก็สรรเสริญ **อนุประโยค คือ ใครๆ ก็สรรเสริญ ไปขยำยคำกริยำ คือ ทำดี ฉะนั้นอนุประโยคตัวอย่ำงนี้จึงทำหน้ำที่ขยำยกริยำของประโยค เขำเดินเร็วจนฉันตามไม่ทัน ** อนุประโยค คือ ฉันตำมไม่ทัน ไปขยำยคำวิเศษณ์ คือ เร็ว พี่ลงโทษไม่ให้น้องดูโทรทัศน์ ** อนุประโยค คือ (ไม่ให้) น้องดูโทรทัศน์ ไปขยำยคำกริยำ คือ ลงโทษ แก้วกัญญำอ่ำนหนังสือพิมพ์ระหว่ำงที่นั่งรอเพื่อน ** อนุประโยค คือ (เขำ) นั่งรอเพื่อน ใบหม่อนดูรำยกำรทอล์คโชว์หลังจากทำกำรบ้ำนเสร็จแล้ว **อนุประโยค คือ (ฉัน) ทำกำรบ้ำนเสร็จแล้ว องค์ชำยลีกั๊กมีควำมรูม้ ำกเพราะเขำอ่ำนหนังสือมำก ** อนุประโยค คือ (เขำ) อ่ำนหนังสือมำก อย่ำลืมนะว่ำถ้ำเรำแยกประโยคออกมำแล้วประโยคทัง้ ๒ ประโยคมีเนือ้ ควำมสมบูรณ์ในตัวเอง เรียกว่ำ ประโยคควำมรวม แต่ถำ้ แยกออกมำแล้วพบว่ำประโยคหนึง่ (ซึง่ เป็นประโยคย่อยหรืออนุประโยค) ไปขยำยอีกประโยคหนึง่ (ซึง่ เป็นประโยคหลักหรือมุขยประโยค) เรียกว่ำประโยคควำมซ้อน

๔ แบบฝึกหัดที่ ๓ ให้นักเรียนพิจารณาประโยคความซ้อนต่อไปนี้ว่าประโยคใดเป็นประโยคหลัก ประโยคใดเป็นประโยคย่อยและเป็น ประโยคความซ้อนแบบใด ๑. คนงำนหลับเมื่อหัวหน้ำงำนไม่อยู่ จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท........................................................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๒. บอย ปกรณ์แสดงบทพระเอกถูกใจคนดูมำก จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท........................................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๓. นักเรียนทีไ่ ม่เคำรพครูเป็นเด็กไม่ดี จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท........................................................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๔. เธอไม่อยู่บำ้ นเมื่อไฟดับ จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท............................................................................................................ ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๕. พ่อสอนให้ผมเป็นคนดี จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท........................................................................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๖. คนดีที่ทำงำนเพื่อส่วนรวมควรได้รับกำรยกย่อง จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท............................................................ ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๗. ครูสอนว่ำลูกที่ดีควรรู้จักกตัญญู จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท........................................................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย............................................................................. ๘. ละครเรื่องสุภำพบุตรจุฑำเทพทำให้เจมส์จริ ำยุมีชื่อเสียงมำก จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท.................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๙. คนที่ออกกำลังกำยสม่ำเสมอจะมีสุขภำพดี จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท............................................................................ ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๐. เธอไม่เคยคิดเลยว่ำผลกำรเรียนจะตกต่ำลงได้ จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท............................................................ ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๑. นักรบทีม่ ีควำมกล้ำหำญย่อมได้รับกำรยกย่องสรรเสริญ จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท......................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๒. คนไทยต้องอนุรักษ์ภำษำไทยอันเป็นมรดกทำงวัฒนธรรมของชำติ จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท......................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๓. ขณะฝนตกไอริณอยู่ที่โรงละคร จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท........................................................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๔. เด็กนักเรียนคนนี้สอบเข้ำเรียนต่อได้เพรำะเขำขยัน จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท............................................................. ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๕. มหัศจรรย์เป็นหมอรักษำคนไข้โรคไต จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท.................................................................................. ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๖. คนขยันที่นั่งแถวหน้ำสอบได้คะแนนดี จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท.................................................................................. ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๗. น้ำป่ำไหลแรงมำกจนด้ำนหน้ำของเขื่อนต้ำนไว้ไม่ไหว จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท............................................................. ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย.............................................................................. ๑๘. ครูเฆี่ยนเด็กที่หนีโรงเรียน จัดเป็นประโยคควำมซ้อนประเภท........................................................................................... ประโยคหลัก..................................................................... ประโยคย่อย..............................................................................

๕ แบบฝึกหัดที่ ๔ จงบอกว่าประโยคต่อไปนี้เป็นประโยคชนิดใด ๑. ปัจจุบันนี้กำรคมนำคมในประเทศของเรำติดขัดมำก......................................................................................................................... ๒. นำยกรัฐมนตรีคนปัจจุบันมำจำกกำรเลือกตั้ง.................................................................................................................................... ๓. ที่ใดมีรักที่นนั่ มีทุกข์............................................................................................................................................................................ ๔. เมื่อเมฆฝนก่อตัวขึ้นในไม่ช้ำฝนก็ตก................................................................................................................................................... ๕. กำรทำงำนด้วยฝีมือมนุษย์ย่อมละเอียดกว่ำกำรทำงำนด้วยเครื่องจักร.............................................................................................. ๖. เป็ดปุ๊กทำงำนเก่งจนใคร ๆ ก็ชมเธอ................................................................................................................................................... ๗. ครูสอนให้นักเรียนรู้จักแก้ปัญหำด้วยตนเอง...................................................................................................................................... ๘. เด็กๆ วิ่งไปมำจนฉันเวียนหัว.............................................................................................................................................................. ๙. ถึงเขำจะร้ำยฉันก็ยังรักเขำ.................................................................................................................................................................. ๑๐. วรรณกรรมที่มีคุณค่ำต้องพัฒนำสติปัญญำของผู้อ่ำน...................................................................................................................... ๑๑. วิถีชีวิตของคนไทยในอดีตผูกพันอยู่กับศำสนำ................................................................................................................................. ๑๒. ถ้ำเธอตั้งใจเรียนหนังสือ เธอก็จะได้เกรด ๔.................................................................................................................................... ๑๓. ฝนตกเพรำะอำกำศร้อน................................................................................................................................................................... ๑๔. ครูชมเชยนักเรียนที่ตั้งใจเรียน.......................................................................................................................................................... ๑๕. นิชคุณประสบควำมสำเร็จเพรำะควำมขยัน...................................................................................................................................... ๑๖. วันเฉลิมประสบควำมสำเร็จเพรำะเขำขยัน........................................................................................................................................ ๑๗. ครูลงโทษไม่ให้นิชคุณกลับบ้ำนตรงเวลำ........................................................................................................................................ ๑๘. เสกโลโซทำกิจกรรมซึ่งเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม……………………………………………………………………………………………..…………….. ๑๙. พอฉันกลับถึงบ้ำนแม่กเ็ ตรียมอำหำรเย็นเสร็จแล้ว…………………………………………………………………………………………….……………. ๒๐. เรำกำลังจะไปซื้อกับข้ำวที่ตลำด ……………………………………………………………………….………………………………………………..……….. ๒๑. บ้ำนที่ไม่มีคนอยู่อำศัยคือบ้ำนร้ำง…………………………………………………………………….……………………………………………………..……. ๒๒. คณิตศำสตร์เป็นวิชำที่เรียนยำก……………………………………………………………………….……………………………………………………..……. ๒๓. ฉันหรือเขำจะชนะกำรแข่งขันครั้งนี้……………………………………………………………………….………………………………………………..……. ๒๔. เขำเป็นนักแสดงและนักพูด………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๒๕. นักเรียนในโรงเรียนของเรำกล่ำวต้อนรับผู้มำเยือน……………………………………………………………………………………………………..….. ๒๖. เขำเป็นคนดีที่ฉันเพิ่งเคยพบ ………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ๒๗. เขำบอกให้คนใช้หยิบหนังสือ………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ๒๘. แดงเป็นคนขยัน เพรำะฉะนัน้ แดงจึงตั้งหลักได้เร็ว…………………………………………………………………………………………………….…… ๒๙. ครูบ่นนักเรียนทุกวัน …………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ๓๐. ลีมินโฮขยันอ่ำนหนังสือแต่ลมี ินโฮก็สอบได้คะแนนน้อย…………………………………………………………………………………………….…….



ประโยคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ประโยคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีลักษณะดังนี้ คือ ๑. เป็นประโยคควำมซ้อนที่ประกอบด้วยประโยคหลักและประโยคย่อยที่ซับซ้อน ๒. เป็นประโยคควำมเดียวที่มีกำรขยำยตัวประธำน หรือตัวแสดงด้วยถ้อยคำหรือกลุ่มคำที่ยดื ยำว ๓. เป็นประโยคควำมรวมที่ประกอบด้วยประโยคย่อยหรือประโยคเล็กหลำยๆ ประโยคเกำะเกี่ยวกันอยู่อย่ำงสลับซับซ้อน

ประโยคความเดียวที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ได้แก่ ประโยคควำมเดียวที่มีกำรขยำยส่วยต่ำงๆ ให้ยดื ยำวซับซ้อน แต่อย่ำงไรก็ตำมก็ยังมี ประธานและกริยาสาคัญเพียงตัวเดียว เช่นเดียวกับประโยคควำมซ้อนทั่วๆ ไป ๑. ควำมซับซ้อนในภำคประธำน ได้แก่ ลุงของเพื่อนของพี่ฉันได้ยินมำกับหูเลย บ้ำนที่อยู่ข้ำงโกดังเก็บศพของวัดนั้นประกำศขำยรำคำถูก ๒. ควำมซับซ้อนในภำคแสดง เรือดำน้ำแล่นจูโ่ จมเข้ำไปวำงทุน่ ระเบิดในจุดยุทธศำสตร์ ปรมินทร์พยำยำมปีนลงจำกหน้ำผำที่สูงชัน ประโยคความรวมที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ได้แก่ประโยคที่มีใจควำมใหญ่เป็นประโยคควำมรวม โดยมีประโยคประกอบเป็นประโยคควำม เดียวที่ซับซ้อนบ้ำง ประโยคประกอบเป็นประโยควำมรวมบ้ำง ประโยคประกอบเป็นประโยคควำมซ้อนบ้ำง ในกำรสังเกต เรำต้องพยำยำมแยกประโยคควำมรวมออกเป็นประโยคควำมเดียวเสียก่อน โดยอำศัยสังเกตคำสันธำนที่เชื่อมเป็น เครื่องกำหนด จำกนั้นจึงค่อยแยกส่วนประกอบต่ำงๆ ของประโยคควำมเดียวนั้นอีกทีหนึ่ง ตัวอย่างประโยคที่ ๑ ควำมทุจริตทำลำยควำมน่ำเชื่อถือในตัวคนได้สิ้นเชิง ดังนั้นกำรสร้ำงควำมศรัทธำจึงต้องอำศัยกำรปฏิบตั ิแต่ควำมสุจริตเป็นนิจ แยกประโยคได้ คาสันธานเชื่อม (ดังนั้น...จึง) ควำมทุจริต ทำลำย ควำมน่ำเชื่อถือในตัวคนได้สิ้นเชิง ดังนั้น กำรสร้ำงควำมศรัทธำ จึง ต้อง อำศัยกำรปฏิบตั ิแต่ควำมสุจริตเป็นนิจ ประโยคความเดียวที่ซับซ้อน

ประโยคความเดียวที่ซับซ้อน

ตัวอย่างประโยคที่ ๒ กำรออกกำลังกำยมิได้ให้ประโยชน์เฉพำะด้ำนร่ำงกำยเท่ำนั้น แต่ยังเป็นยำขนำนวิเศษสำหรับจิตใจอีกด้วย แยกประโยคได้ ........................................................................................___________............................................................................................. คาสันธานเชื่อม

ตัวอย่างประโยคที่ ๓ ถึงคุณจะยำกจนแต่คณ ุ ก็ขยันหมั่นเพียรดังนั้นคุณอำจจะร่ำรวยขึ้นถ้ำคุณรู้จักอดออม แยกประโยคได้ คาสันธานเชื่อม ถึงคุณจะยำกจนแต่คณ ุ ก็ขยันหมัน่ เพียร ดังนั้น คุณอำจจะร่ำรวยขึ้นถ้าคุณรูจ้ ักอดออม ประโยคความรวม

ประโยคความรวม

ตัวอย่างประโยคที่ ๔ เวียร์ทำกำรบ้ำนและร้องเพลงเบำๆ แต่แพนเค้กนั่งวำดรูปและส่งเสียงดังลั่น แยกประโยคได้ ........................................................................................___________............................................................................................. คาสันธานเชื่อม

๗ ตัวอย่างประโยคที่ ๕ ควำมสุขและควำมทุกข์เกิดแต่ใจเป็นปฐม ทว่ำน้อยคนนักจะควบคุมและระงับควำมสุขทุกข์ได้ แยกประโยคได้ ........................................................................................___________............................................................................................. คาสันธานเชื่อม

ตัวอย่างประโยคที่ ๖ โฬมพูดยืดยำวจนคนฟังเบื่อ แต่เรำก็ทนฟังเขำพูดไปจนจบ เพรำะเกรงใจประธำนในที่ประชุม แยกประโยคได้ คาสันธานเชื่อม โฬมพูดยืดยำวจนคนฟังเบื่อ แต่ เรำ ก็ ทนฟังเขำพูดไปจนจบ เพราะเกรงใจประธำนในที่ประชุม ประโยคความซ้อน

ประโยคความซ้อน ประโยคความซ้อน

ตัวอย่างประโยคที่ ๗ ครูไหวพูดเสียงดังลั่นจนนักเรียนหนวกหู แต่ทุกคนก็ทนฟังครูไหวพูดจนจบเพรำะเกรงใจครูใหญ่ แยกประโยคได้ ........................................................................................_______...................................................................................................... คาสันธานเชื่อม

ประโยคความซ้อนที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

อีกนิดเนอะ หัวข้อ สุดท้าย โดยมี ปาระโยคประกอบเป็นประโยคควำมเดียวที่ซับซ้อนบ้ำง แล้วจ้

ได้แก่ ประโยคที่มีใจควำมใหญ่เป็นประโยคควำมซ้อน ประโยค ควำมรวมเป็นประโยคประกอบบ้ำง ประโยคประกอบเป็นประโยคควำมซ้อนบ้ำง ประโยคตัวอย่างที่ ๑ คนที่คิดผิดและเห็นผิดย่อมเป็นคนที่น่ำสงสำรและน่ำเวทนำที่สุด แยกประโยคได้ คุณานุประโยค คุณานุประโยค (ประโยคความรวม) กริยาสาคัญ (ประโยคความรวม) คน ที่ คิดผิด และ เห็นผิด ย่อม เป็น คน ที่ น่ำสงสำร และ น่ำเวทนำ ที่สุด (คน) (คน) ขยาย ขยาย ประโยคตัวอย่างที่ ๒ สมใจทุ่มก้อนหินก้อนโตอย่ำงสุดแรงเกิดเข้ำไปในพุ่มไม้ที่มีขโมยซ่อนอยู่ แยกประโยคได้ ......................................................................................................________........................................................................................ คำสันธำนเชื่อม ประโยคตัวอย่างที่ ๓ ข่ำวโจรปิดถนนปล้นและทำร้ำยเจ้ำทรัพย์ตำยแพร่ไปอย่ำงรวดเร็ว แยกประโยคได้ ประโยคหลัก ข่ำว...แพร่กระจำยไปย่ำงรวดเร็ว ประโยคย่อย โจรปิดถนนปล้นและทำร้ำยเจ้ำทรัพย์ตำย โจรปิดถนนปล้น และ (โจร) ทำร้ำยร่ำงกำยเจ้ำทรัพย์ตำย

จัดเป็นประโยค........................

๘ ประโยคตัวอย่างที่ ๔ เคนมักจะเล่ำเรื่องหน่อยที่มักใส่ควำมคนอื่นแต่ใครๆ ก็ไม่เชื่อให้ฉันฟังบ่อยๆ แยกประโยคได้ ประโยคหลัก ........................................................................................................................................................ ประโยคย่อย ....................................................................................................................................................... ประโยคตัวอย่างที่ ๕ นุ่นเล่ำว่ำอั้มเสนอขำยสินค้ำให้เธอโดยไม่ถำมเธอซักคำว่ำเธอต้องกำรสินค้ำนั้นหรือไม่ แยกประโยคได้ ......................................................................................................________........................................................................................ (ประโยค..........................) คำสันธำนเชื่อม (ประโยค..........................) ประโยคหลัก ........................................................................................................................................................ ประโยคย่อย ....................................................................................................................................................... แบบฝึกหัดที่ ๕ จงบอกว่าประโยคต่อไปนี้เป็นประโยคชนิดใด ๑. ฉันเถียงคุณยำย คุณยำยจึงลงโทษฉัน แต่คนอื่นหำว่ำฉันทำร้ำยคุณยำย คนเหล่ำนั้นจึงหำว่ำฉันอกตัญญู ..................................................................................................................................... .......................................................................... ๒. ถ้ำสนำมสร้ำงเสร็จและนักกีฬำมีควำมพร้อมเรำจะมีกำรแข่งขันกีฬำแน่นอนหำกไม่มเี หตุสุดวิสัยจริง ๆ ..................................................................................................................................... .......................................................................... ๓. ภำพยนตร์เกำหลีประเภทรักโรแมนติกได้รบั ควำมนิยมมำก.......................................................................................................... ๔. พำยุฝนพัดกระหน่ำอย่ำงรุนแรงเกือบตลอดทั้งวัน......................................................................................................................... ๕. แม้ว่ำบำงทีควำมเมตตำกรุณำจะไม่ปรำกฏแก่ใจของผู้อื่น แต่ก็จะปรำกฏชัดเจนแก่ใจของผู้มีเมตตำเสมอไป ..................................................................................................................................... .......................................................................... ๖. เขำย่อมรู้ว่ำเขำร้อนใจเพรำะว่ำเขำทำควำมชั่วแล้ว......................................................................................................................... ๗. ชีวิตเก่ำของไทยเป็นแบบแผนกำรดำรงชีวิตในปัจจุบัน เรำจึงควรอ่ำนหนังสือเก่ำซึ่งกล่ำวถึงชีวิตเก่ำไว้เป็นอันมำก ..................................................................................................................................... .......................................................................... ๘. กวีจะได้ยินหรือเห็นสิ่งใดตำมควำมรูส้ ึกของตนซึ่งไม่จำเป็นจะต้องสอดคล้องกับบุคคลทั่วไป ..................................................................................................................................... .......................................................................... ๙. นักเรียนอำจสอบถำมควำมรูจ้ ำกครูหรือค้นคว้ำหำเองในห้องสมุด เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องมำพึ่งครูมำกนัก ..................................................................................................................................... .......................................................................... ๑๐. ถ้ำคนไทยช่วยกันประหยัด เศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้น............................... .......................................................................….. ๑๑. เรื่องสั้นที่มีคณ ุ ค่ำจะต้องแสดงแนวคิดซึ่งเพิ่มพูนภูมิปัญญำ............................... .......................................................................... ๑๒. ประธำนนักเรียนโรงเรียนของเรำกล่ำวต้อนรับผูม้ ำเยือน............................................................................................................... ๑๓. คุณตำของฉันดวงตำฝ้ำฟำงจึงมองเห็นไม่ชัดเจน แต่คณ ุ ยำยไม่เข้ำใจจึงหำว่ำคุณตำแกล้งทำ......................................................... ๑๔. นักเรียนรวมพลังเดินขบวนต่อต้ำนยำเสพติด.................................................................................................................................... ๑๕. เพื่อนของฉันได้รับอุบัติเหตุจนกลำยเป็นคนพิกำร แต่ทว่ำเธอก็ไม่เคยนำมำเป็นอุปสรรคจนเกิดผลเสียต่อกำรเรียน ..................................................................................................................................... .......................................................................... ๑๖. ฉันมีควำมใฝ่ฝันด้วยอุดมกำรณ์อันแน่วแน่ที่จะเป็นนักต่อสูเ้ พื่อสิทธิอันชอบธรรมของมวลมนุษย์..................................................



แบบฝึกหัดเพิ่มเติมเรื่องประโยค ๑. ข้อใดเป็นประโยคควำมเดียว ๑. เครื่องปั้นดินเผำก่อนประวัติศำสตร์ที่มีชื่อเสียงไปทัว่ โลกคือเครื่องปั้นดินเผำที่บ้ำนเชียง ๒. เครื่องปั้นดินเผำที่บ้ำนเชียงส่วนใหญ่เป็นหม้อลำยเขียนสีรูปวงกลมม้วนคล้ำยลำยก้นหอย ๓. หลักฐำนทำงโบรำณคดีแสดงว่ำบ้ำนเชียงเป็นแหล่งอำรยธรรมสำคัญในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ๔. คณะกรรมกำรมรดกโลกประกำศให้แหล่งโบรำณคดีบ้ำนเชียงเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕ ๒. ข้อใดไม่ใช่ประโยคควำมซ้อน ๑. คนไทยนิยมทำอำหำรตำมฤดูกำลซึ่งสอดคล้องกับธรรมชำติ ๒. ปลำยฤดูฝนต้นฤดูหนำว อำกำศที่เปลี่ยนแปลงทำให้คนเป็นไข้หวัด ๓. เย็นนี้แม่บ้ำนจะทำแกงส้มดอกแคและผัดผักรวม ๔. เชื่อกันว่ำกำรรับประทำนแกงร้อนๆจะช่วยแก้ไข้หวัดในระยะเปลี่ยนฤดูได้ ๓. ข้อใดไม่ใช่ประโยค ๑. กำรดำเนินงำนธุรกิจหรือกำรประกอบอำชีพต้องมีควำมพอเพียง ๒. เศรษฐกิจพอเพียงมิได้จำกัดเฉพำะเกษตรกรหรือชำวไร่ชำวนำเท่ำนัน้ ๓. เกษตรทฤษฎีใหม่เป็นระบบเศรษฐกิจที่เน้นให้เกษตรกรสำมำรถดูแลตัวเองได้ ๔. กำรบริหำรจัดกำรเศรษฐกิจที่ทำให้คนสำมำรถดูแลตัวเองให้อยูไ่ ด้โดยไม่เดือดร้อน ๔. ข้อใดไม่ใช่ประโยคควำมเดียว ๑. ผลไม้เมืองหนำวหลำยชนิดจะมีน้ำตำลฟรักโทสมำกกว่ำผลไม้เมืองร้อน ๒. ภำวะไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกิดจำกกำรรับประทำนน้ำตำลฟรักโทสมำกเกินไป ๓. กำรควบคุมอำหำรมีควำมสำคัญมำกเพรำะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้อย่ำงรวดเร็ว ๔. กำรลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในขัน้ แรกควรจะควบคุมอำหำรโดยเฉพำะอำหำรกลุ่มแป้ง ๕. ข้อใดเป็นประโยคควำมซ้อน ๑. ปัจจุบันระบบอินเทอร์เน็ตมีบทบำทอย่ำงมำกทั้งในหมู่วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ ๒. โลกของอินเทอร์เน็ตมีสำรประโยชน์ ควำมบันเทิง ควำมรู้ และกำรสื่อสำร มำกมำย ๓. ทุกวันนี้เรำจะสังเกตเห็นว่ำมีอนิ เทอร์เน็ตคำเฟ่แฝงอยู่ในธุรกิจหลำยประเภท ๔. ในร้ำนอำหำร โรงแรม สปำ ห้ำงสรรพสินค้ำ และโรงพยำบำลบำงแห่งมีมุม ของอินเทอร์เน็ตคำเฟ่ทั้งนั้น ๖. ข้อควำมต่อไปนี้ส่วนใดเป็นประโยคต่ำงชนิดกับข้ออื่น (๑) กำรบริโภคอำหำรทะเลมีประโยชน์อย่ำงยิ่งต่อร่ำงกำยคนเรำ (๒) ในเนื้อปลำมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งมีส่วนช่วยลด คอเลสเตอรอลในเลือด (๓) คนที่ชอบรับประทำนกุ้งส่วนมำกไม่รับประทำนหำงและเปลือก (๔) ทั้งหำงและเปลือกกุ้งเป็นอำหำรทีอ่ ุดมไปด้วย แคลเซียมและไคโตซำน ๑. ส่วนที่ ๑ ๒. ส่วนที่ ๒ ๓. ส่วนที่ ๓ ๔. ส่วนที่ ๔ ๗. ข้อใดเป็นประโยคควำมซ้อน ๑. ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทำงธรรมชำติหลำกหลำยประเภท ๒. แหล่งท่องเที่ยวประเภทถ้ำมักอยู่ในบริเวณภูเขำในภำคต่ำงๆ ของประเทศ ๓. น้ำใต้ดินที่ไหลซึมผ่ำนชั้นของหินปูนก่อให้เกิดถ้ำขนำดต่ำงๆ ขึ้น ๔. นักท่องเที่ยวสำมำรถเดินเข้ำไปชมสิ่งสวยงำมต่ำงๆ ภำยในถ้ำได้ ๘. ข้อใดเป็นประโยคควำมรวม ๑. กระแสน้ำไหลแรงจนเซำะตลิ่งพังไปแถบหนึ่ง ๒. มีหลักฐำนว่ำมนุษย์ยุคหินใช้ขวำนทองแดงในกำรล่ำสัตว์ ๓. ฟ้ำทะลำยโจรเป็นพืชสมุนไพรที่นิยมใช้รักษำอำกำรเจ็บคอ ๔. กำรส่งเสริมกำรอ่ำนเป็นกำรพัฒนำทรัพยำกรบุคคลอย่ำงหนึ่ง ๙. ข้อใดไม่ใช่ประโยครวม ๑. พอฝนจะตกเรำก็รีบกลับบ้ำนทันที ๒. คนไทยรักสงบแต่ยำมรบก็ไม่ขลำด ๓. ใคร ๆ ก็รู้ว่ำแถวสีลมอำกำศเป็นพิษ ๔. ประชำชนไม่ใช้สะพำนลอยตำรวจจึงต้องตักเตือน

View more...

Comments

Copyright ©2017 KUPDF Inc.
SUPPORT KUPDF